Netflix ธุรกิจออนไลน์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทที่เน้นด้าน Data-Driven เป็นอย่างมาก เก็บทุกรายละเอียดของผู้ชมในแต่ละจังหวะที่อยู่บนแพลตฟอร์ม เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค และนำเสนอสิ่งที่ตรงจุด
เดต้าที่ Netflix รวบรวมไว้นั้น มีตั้งแต่เดต้าพื้นฐานอย่าง Rating, การค้นหาหนัง, วันเวลาที่ดู, ดูจากอุปกรณ์อะไร, อุปกรณ์ต่างๆ มีผลต่อพฤติกรรมของคนดูแตกต่างกันแค่ไหน, ช่วงไหนของหนังที่ถูก pause, ส่วนไหนที่ถูกนำมาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นต้น ด้วยเดต้าเหล่านี้ทำให้ Netflix สามารถเข้าใจพฤติกรรมของผู้ชมแต่ละคน และนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจมากที่สุด
และในช่วงหยุดยาวนี้ ใครว่างก็นั่งดูซีรีย์วนๆ ไป เป็นอีกครั้งที่ Netflix จะได้มีโอกาสเก็บเดต้าผู้ชมเชิงลึกในแง่ของเนื้อหากับหนังซีรีย์เรื่อง Black Mirror: Bandersnatch เพราะเป็นหนังที่ผู้ชมสามารถเลือกตัวเลือกเองได้นั่นเอง ในรูปแบบ Interactive
ก่อนอื่นให้นึกถึงหนังสือการ์ตูนสมัยเด็กๆ โดยเฉพาะเรื่องสืบสวนสอบสวน ที่มีตัวเลือกให้เราเลือก และการเลือกแต่ละครั้งจะนำพาเราสู่จุดจบของการ์ตูนเรื่องนั้นที่มีเนื้อหาไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าเราก็อยากรู้ตอนจบหลายๆ แบบ ด้วยความอยากรู้เราก็ไล่อ่านมันหมดทุกรูปแบบเลยใช่ไหม? ซึ่งรูปแบบนี้ก็ถูกนำมาใช้ในเกมด้วย
ในขณะที่ตัวหนังทุกวันนี้ หลายครั้งเราอาจนั่งบ่นว่า "โธ่! ตามมาทั้งเรื่อง จบแบบนี้ได้ยังไงกัน แอบผิดหวังนะเนี่ย..." และนี่คืออีกก้าวของการเลือกฉากจบด้วยตัวผู้ชมเองนั่นเอง โดยมีจุดทางเลือกต่างๆ ที่แทรกเข้ามาในเรื่องตลอด ทำเอาชนิดที่ว่า มีแฟนพันธุ์แท้ที่ติดตามวาดออกมาเป็น flowchart แชร์กันเลยทีเดียว (Spoil: เรื่องราวที่ถูกอธิบายเป็น Flowchart บน reddit)
แม้รูปแบบของเรื่องนี้มีผู้ชมบางรายออกมากล่าวว่า ยังมีตัวเลือกระหว่างทางที่ไม่เยอะมาก และต้องดูวนลูปบ่อยๆ กว่าจะเก็บรูปแบบตอนจบทั้งหมด 6 รูปแบบให้ครบ (ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่ามีแค่นี้กันหรือเปล่า) ก็พาเอามึนกับฉากวนลูปได้ แต่ด้วยการสร้างหนังในรูปแบบนี้ทำให้ Netflix เข้าใจผู้ชมลงไปในระดับเนื้อหาของตัวหนังมากขึ้นจริงๆ ดีไม่ดีต่อไปทางเลือกของเนื้อหาในหนังอาจจะไม่ได้เกิดจากตัวเลือกเพียงอย่างเดียว แต่ดูจากพฤติกรรมความตั้งใจการวนดูเนื้อหาส่วนไหนในเรื่องของเราโดยเฉพาะ จนมีฉากลับโผล่ออกมา หรือตัวละครเองหันมาคุยกับผู้ชมก็เป็นได้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด