ปัจจุบันการผลักดันการตลาดองค์กรแบบดั้งเดิมไปสู่การตลาดรูปแบบใหม่ยังติดกับดัก องค์กรบางส่วนยังยึดติดกับการตลาดรูปแบบเดิม และหันกลับไปใช้การตลาดรูปแบบเดิม จากข้อมูลของ The CMO Survey 2022 คาดการณ์การใช้จ่ายโฆษณาแบบดั้งเดิมเพื่อโปรโมทสินค้าและบริการ จะเพิ่มขึ้น 11.7% ในปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่ผ่านทางออนไลน์ จึงเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายกับการรับข่าวสารโฆษณาดิจิทัลและการมีส่วนร่วมทางช่องทางออนไลน์ ผนวกกับอาชญากรรมดิจิทัลและการโจมตีทางไซเบอร์ ผู้บริโภคจึงระวังตัวมากขึ้นต่อการรับโฆษณาทางช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้รายงานที่จัดทำโดยเอ็นทีที เดต้า Dx Spotlight Feature Asset พบว่า มีเพียง 4 ใน 10 องค์กรเท่านั้นที่ตระหนักว่าพวกเขาสามารถส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้าน ความเร็ว ความยืดหยุ่นของบริการ และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล รายงานดังกล่าวเป็นสัญญาณว่าองค์กรอาจจะกำลังหลงทาง เพราะหัวใจของความสำเร็จในการทำการตลาดยุคนี้คือการออกแบบการตลาดดิจิทัลได้ครบทุกมิติ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์อินไซด์ผู้บริโภคทั้งในแง่การสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่สะดวกลื่นไหลไร้รอยต่อผ่านช่องทางต่างๆ ไปพร้อมกับการทำโฆษณาไปจนถึงสินค้าและบริการที่ตอบสนองผู้บริโภคได้แบบเจาะจงเฉพาะบุคคลมากขึ้น
นายฮิโรนาริ โทมิโอกะ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การตลาดในยุคดิจิทัลมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่นำพาผู้บริโภคก้าวขึ้นสู่โลกดิจิทัลอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในหลายมิติ อาทิ การซื้อสินค้า การทำธุรกรรม หรือการทำงานแบบออนไลน์ ผู้บริโภคต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว ส่งผลต่อการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีมีประสิทธิภาพและการเข้าถึงอินไซด์ผู้บริโภคแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำ Marketing Transformation ในประเทศไทย และเพื่อเป็นหนทางสำคัญในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขายได้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ เอ็นทีที เดต้า พร้อมให้บริการ Digital Marketing เต็มรูปแบบ หรือ Full-suite Digital Marketing Transformation ช่วยสนับสนุนและผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านการตลาด ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเพื่อวางกลยุทธ์ ตรวจสอบเครื่องมือปัจจุบัน การเลือกใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสมผ่านช่องทางดิจิทัล รวมถึงการวางแผนวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด เพื่อนำมาปรับปรุงกระบวนการ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับเครื่องมือมากที่สุด ทั้งยังสนับสนุนองค์กรไปสู่ Data-Driven Organization หรือองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่การตลาดรูปแบบใหม่ บริการ Digital Marketing ของบริษัทฯ จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างกรอบการทำงานตามแนวคิด 5C ซึ่งเป็นแนวคิดการตลาดยุคใหม่ ได้แก่ Customer Data, CRM, Commerce&Analytics, Contents, Collaboration&Connection เพื่อเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก(insight) ผู้บริโภค และสภาพแวดล้อมในการทำการตลาดที่เปลี่ยนไป ผ่าน 5 บริการ ดังต่อไปนี้
1. Marketing / CX Strategy การวางกลยุทธ์การตลาดเพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนการประเมินแผนงาน การวางแผนการตลาดดิจิทัล และการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ลูกค้าปัจจุบัน คู่แข่ง สภาพแวดล้อมและศักยภาพของเครื่องมือการตลาด เพื่อหาจุดแข็งและจุดอ่อน พร้อมวางกลยุทธ์และแผนงานในการสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านทุกช่องทาง (Omnichannel)
2. MarTech Consulting การประเมินและแนะนำเครื่องมือทางการตลาด เพื่อการลงทุนที่เหมาะสมในการดำเนินงานทางการตลาดและการขาย รวมถึงการดูแลลูกค้าปัจจุบัน
3. Experience Design (UX, UI) ทีมงานและผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้องค์กรเข้าใจความต้องการของลูกค้า ด้วยการใช้ระบบและเครื่องมือการตลาดที่เหมาะสมกับความต้องการผู้บริโภค พร้อมบริการในการออกแบบการทำงานของระบบ เพื่อรองรับ Customer Journey ทั้งบนหน้าเว็บไซต์ Application บนมือถือ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีตลอดการใช้งานของผู้บริโภค
4. MarTech Implementation บริการออกแบบกระบวนการทำงานพร้อมติดตั้งระบบและเครื่องมือทางการตลาด อาทิ ระบบ Marketing Automation, CRM (Customer Relationship Management), CDP (Customer Data Platform), Social Listening และเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดและการขาย (Data Analytics Tool)
5. Business & Marketing Data Analysis การวิเคราะห์เชิงลึกทั้งในกระบวนการทำงานทั้งก่อนและหลังการใช้บริการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานผ่านทุกช่องทางการตลาด
“ที่ผ่านมาเอ็นทีที เดต้า ได้นำบริการ Digital Marketing เต็มรูปแบบ (Full-suite Digital Marketing Transformation) ให้บริการแก่ลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม หนึ่งในลูกค้าคือแบรนด์รถยนต์ชั้นนำสัญชาติจีน-สวีเดน เพื่อพัฒนาช่องทางการเข้าถึง และสร้างประสบการณ์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่การพัฒนาช่องทางออนไลน์ การจัดทำและดูแล Website และ Application การพัฒนาช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง WeChat และระบบ e-Commerce รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลจากทุกช่องทางแบบศูนย์กลางเพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูล นำไปสู่การจัดทำ Marketing Campaign และระบบสมาชิก อีกทั้งการพัฒนา Smart Store หรือ Digital Store ด้วยการเข้าเยี่ยมชมโชว์รูมผ่านระบบออนไลน์ ลูกค้าสามารถเลือกชมรถยนต์ได้ทุกโมเดล ตลอดจนการลงทะเบียนเพื่อทดสอบการขับขี่ได้ด้วย ในฝั่งของโชว์รูม ก็สามารถเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมของลูกค้าได้ตั้งแต่ต้น และแสดงผลการดำเนินงานด้านการขายและการตลาดผ่านระบบ Business Intelligence (BI) dashboard สร้างระบบเก็บข้อมูลจากโซเชียลมีเดียผ่านระบบ โดเมนขององค์กร (Private Domain) อย่าง WeChat และ Tiktok ให้สามารถรวบรวมข้อมูลจากทุกช่องทาง เพื่อนำไปวิเคราะห์และต่อยอดทางธุรกิจ สามารถตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และการจัดทำโปรโมชั่นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรที่สามารถขับเคลื่อนด้วยข้อมูล หรือ Data-Driven Organization ช่วยให้เห็นภาพรวมของการขายและกระบวนการทางการตลาดได้ตั้งแต่ต้นจนจบ สามารถวัดผลของกิจกรรมได้อย่างแม่นยำ เพื่อการลงทุนในกิจกรรมที่คุ้มค่าที่สุด โครงการนี้สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ 30% ซึ่งรายการสั่งซื้อครึ่งหนึ่งมากจากช่องทางออนไลน์ แม้ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด” นายฮิโรนาริ กล่าว
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด