เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราเห็นกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของนวัตกรรมและเทคโนโลยีทั่วโลกมากมาย ซึ่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเหล่านี้ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก หลายธุรกิจได้นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความคล่องตัวไม่เว้นแม้กระทั่งการลงทุนในกองทุนหรือตลาดหุ้น แต่สถานการณ์ในปัจจุบันส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นและกองทุนภายในประเทศมีการชะลอตัวลงไปบ้าง ด้วยสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่ควร ดังนั้นการลงทุนในกองทุนต่างประเทศจึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่ช่วยให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงได้
การเข้าลงทุนในกองทุนต่างประเทศช่วงนี้ถือเป็นโอกาสทำกำไรแก่นักลงทุนไม่มากก็น้อยเนื่องจากปัจจุบันหลายประเทศเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ถือเป็นสัญญานการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในขณะที่นักลงทุนไทยหลายรายยังมีความกังวลกับสถานการณ์โควิด-19 และเศรษฐกิจไทยที่ยังหดตัว ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนสูงตามอัตราการติดเชื้อ ดังนั้นการกระจายพอร์ตการลงทุนไปต่างประเทศก็จะช่วยลดความเสี่ยงมากกว่าการกระจุกการลงทุนเฉพาะในประเทศ
ตลาดหุ้นและตลาดกองทุนต่างประเทศถือว่ามีความหลากหลายและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนที่เข้าซื้อสามารถสร้างผลตอบแทนเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ที่สำคัญบางหมวดธุรกิจเป็นกลุ่มที่ยังไม่ครอบคลุมในตลาดหุ้นไทย เช่น กลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นต้น ดังนั้นจึงถือว่าตอบโจทย์นักลงทุนสมัยใหม่ที่ต้องการการลงทุนที่หลากหลาย จุดนี้เลยทำให้ตลาดหุ้นและตลาดกองทุนต่างประเทศมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
เดิมทีเวลาเราต้องการเลือกซื้อกองทุนในต่างประเทศจะต้องผ่านขั้นตอนการทำเอกสารมากมาย และผ่านตัวกลางอย่างฟีดเดอร์ (Feeder Fund) ที่จะเป็นผู้คัดเลือกกองทุนให้เรา เพื่อจะเข้าไปลงทุนในมาสเตอร์ฟันด์ (Master Fund) ซึ่งกระบวนการดังกล่าวทำให้ผู้ลงทุนเสียค่าธรรมเนียมหลายรอบ ตั้งแต่ค่าบริหารจัดการกองทุน อัตราแลกเปลี่ยน ไปจนถึงค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการความเสี่ยง กลายเป็นว่านักลงทุนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมถึงหลายต่อ
โดยธนาคารกสิกรไทย ได้เล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ จึงเกิดความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย ลู อินเตอร์เนชันแนล และกลุ่มโรโบเวลธ์ สร้างฟีเจอร์ Offshore ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ในแอปพลิเคชัน "FinVest" ที่จะช่วยตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนต่างประเทศได้โดยตรงเป็นแอปแรกในประเทศไทย
ความน่าสนใจของระบบการทำงานของฟีเจอร์ Offshore ของแอป FinVest คือการนำเอาเทคโนโลยี FinTech เข้ามาใช้ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการลบคนกลางในการซื้อ-ขายให้แก่นักลงทุน และทำให้ทุกกระบวนการขั้นตอนเป็นระบบออนไลน์ โดยสามารถทำผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้แบบ 100% ตั้งแต่การเริ่มเปิดบัญชีไปจนถึงการยืนยันตัวตนเพื่อขอรับรหัสผ่านในการเข้าใช้งานในแอปพลิเคชัน FinVest
และ FinVest ยังมีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ของตนเอง ที่นักลงทุนสามารถเลือกผูกบัญชีได้กับหลายธนาคารชั้นนำของประเทศไทย
การซื้อกองทุนตรงทั่วโลกบนแอป FinVest นับว่าสะดวกมาก ๆ เพราะ ลู อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) หนึ่งในผู้พัฒนา FinVest ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการลงทุนระดับโลกในเครือผิงอันกรุ๊ป (Ping An Group) ได้เชื่อมต่อ FinVest เข้ากับระบบซื้อขายหน่วยลงทุนในต่างประเทศเพื่อลงทุนได้โดยตรง และวางระบบให้นักลงทุนสามารถใช้สกุลเงินบาทซื้อกองทุนต่างประเทศได้ ด้วยการจัดการระบบอัตราแลกเปลี่ยนหลังบ้านตามเรท ณ เวลานั้นของธนาคารกสิกรไทย ที่ปรับแบบอัตโนมัติ นักลงทุนจึงไม่จำเป็นต้องแลกเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศก่อน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการซื้อขายในทุกขั้นตอน ทำให้นักลงทุนได้รับประสบการณ์การลงทุนแบบไร้รอยต่อ โดยมีเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 30,000 บาทเท่านั้น
ทั้งนี้กองทุนในแอปพลิเคชัน FinVest ถูกคัดเลือกโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญมีความครอบคลุมหลากหลาย นักลงทุนสามารถเลือกได้ตามเมกะเทรนด์หรือความสนใจส่วนบุคคล โดยมีกองทุนที่รวบรวมมามีความหลากหลาย มีกองทุนให้เลือกซื้อมากกว่า 1,000 กองทุนจาก 33 บลจ.ชั้นนำทั่วโลก ซึ่ง FinVest จะคัดเลือกธีมการลงทุนที่เด่น ๆ เอาไว้หน้าแรก ซึ่งมาจากการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนของ FinVest นำข้อมูล Big Data ทั้งด้านผลการดำเนินงานที่ผ่านมามาวิเคราะห์ร่วมกับโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเป็นกองทุนที่อยู่ในกระแสแต่ละช่วงนั้น ๆ เรียกง่าย ๆ คือจัดลำดับกองทุนที่น่าสนใจให้แก่ผู้ลงทุนเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจในการลงทุนนั่นเอง ซึ่งตอบโจทย์นักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นอยากลงทุนกองทุนต่างประเทศแต่ไม่รู้จะเลือกกองไหน รวมทั้งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ให้ได้คอนเฟิร์มข้อมูลก่อนซื้อและขายอีกด้วย
พิเศษ! ช่วงเปิดตัวฟีเจอร์ซื้อขายกองทุนรวมต่างประเทศโดยตรงบน FinVest ระหว่างวันนี้-15 พฤศจิกายน 2564 ฟรี! ค่าธรรมเนียมจากการขายหน่วยลงทุน (Front-end-fee) แบบไม่มีเพดาน สำหรับ 5 กองทุนแนะนำ ดังนี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วน Promotion เว็บ https://bit.ly/3CsTg4f
กองทุน Robeco Smart Mobility จาก UOBAM เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยี ยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับ
กองทุน Global Energy Transition จาก Schroder ISF เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านธุรกิจและเทคโนโลยีพลังงานสะอาดระดับโลก
กองทุน Blockchain Innovation จาก BNY Mellon เน้นลงทุนในบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนในหลากหลายอุตสาหกรรม
กองทุน Healthcare Innovation จาก Schroder ISF เน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมเฮลธ์แคร์ รวมทั้ง Johnson & Johnson, AstraZeneca, Pfizer
กองทุน Worldwide Long Term Global Growth Fund จาก Baillie Gifford เน้นลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่นจากทั่วโลก และมีความสามารถในการแข่งขันสูง
***สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์เพื่อเรียนรู้โอกาส เพิ่มกำไรด้วยการลงทุนตรงกองทุนต่างประเทศกับ FinVest และเข้าใจตลาดการเงินโลกยุคโควิด-19 ในหัวข้อ “ติดปีกการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ” สามารถลงทะเบียนเพื่อรับลิงค์ zoom เข้าร่วมงานได้ที่ https://finvest.onelink.me/CoWV/bd6c30dd โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย งานจัดขึ้นวันที่ 5 ต.ค. 2564 เวลา 19.00-20.20 น.
****สามารถดาวโหลดเพื่อเริ่มลงทุนทั่วโลกบนแอป FinVest ได้แล้วที่ https://finvest.onelink.me/CoWV/ffa17c42
***** กดติดตาม FinVest Facebook และเว็บไซต์ https://bit.ly/3CsTg4f เพื่อไม่ให้พลาดการอัพเดทเทรนด์ลงทุนจากทั่วโลก
บทความนี้เป็น Advertorial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด