งานสัมมนา TMA Thailand Management Day 2019 ภายใต้แนวคิด GROWTH: Building Capabilities for the Future ครั้งนี้ TMA ได้เชิญสปีกเกอร์ชั้นนำจากต่างประเทศและในประเทศมากมาย หนึ่งในนี้คือ คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ที่ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับบุคลากรในองค์กร ทั้งในแง่ของวิสัยทัศน์ ทัศนคติรวมถึงกลยุทธ์ เพื่อนำองค์กรก้าวสู่วัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม
เมื่อระบบอัตโนมัติสามารถทำงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้นเรื่อยๆ องค์กรจะทำการเตรียมบุคลากรในการรับมือกับแนวโน้มดังกล่าวได้อย่างไร? คุณรวิศให้คำแนะนำในการรับมือกับความท้าทายดังกล่าวในการพัฒนาทักษะที่สำคัญ มีด้วยกัน 3 ระดับ ดังนี้ (เรียงลำดับความซับซ้อนจากน้อยไปมาก)
ภายในปี 2022 จะมีอาชีพกว่า 75 ล้านตำแหน่งหายไป ขณะเดียวกันก็จะมีอีก 133 ล้านตำแหน่งเพิ่มขึ้นมา ทั้งนี้ อาชีพใหม่จะเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญขึ้นเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยี อย่าง นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysts) นักพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชั่น (Software, Applications Developers) ด้านอีคอมเมิร์ช (E-Commerce) และผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดีย (Social Media Specialist)
อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดว่างานที่ต้องใช้ทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์จะยังมีการเติบโตอยู่ เช่น พนักงานบริการลูกค้า ผู้เชี่ยวชาญด้านการขาย ผู้ทำการฝึกอบรมพัฒนาบุคคลากรและวัฒนธรรมในองค์กร ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กรและผู้จัดการนวัตกรรม
คุณรวิศเสริมว่า คนจำนวนมากมักจะคิดว่างานที่หายไปเนื่องจากการเข้ามาแทนที่ของระบบอัตโนมัติ นั่นคืองานที่ต้องใช้แรงงานหรือ Blue collar แต่จากรายงาน จะเห็นได้ว่ามีมนุษย์เงินเดือน หรือ White collar ก็ได้รับผลกระทบจำนวนมากเช่นกัน อย่าง Accounting, Bookkeeping, Playroll Clerks, Accountant, Auditors แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ทักษะในงานเหล่านี้มีความใกล้เคียงกับทักษะที่ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอาชีพเกิดใหม่ (ตามภาพ) พนักงานเพียงแค่ต้องทำการ reskill ทักษะใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
มีคาดการณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในแง่ของจำนวนชั่วโมงการทำงานโดยรวมระหว่างมนุษย์ เครื่องจักร และอัลกอริทึมอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2018 ใช้คนทำงาน 71% แต่ใช้หุ่นยนต์ 29%
ภายในปี 2022 คาดว่าค่าเฉลี่ยนี้จะเปลี่ยนเป็นชั่วโมงการทำงานของมนุษย์ 58% และโดยเครื่องจักร 42%
จุดตัดที่สำคัญคือในปี 2025 เราจะทำงานน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่นี้เราอาจจะต้องมานั่งคิดแล้วว่า เราจะมีวันหยุดเพิ่มในวันไหนดี
ภายในปี 2020 ทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงานส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปอย่างมาก ค่าเฉลี่ย“ ความมั่นคงทักษะ” ทั่วโลก สัดส่วนของทักษะหลักๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานที่จะยังคงเหมือนเดิม ซึ่งคาดว่าจะมี 58% ส่วนที่เหลืออีก 42% จะต้องทำการ reskill ใหม่
ในช่วงปี 2022 เราต้องมีวันในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถึง 101 วันต่อปี แน่นอนว่าเราไม่สามารถออกมาเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ทั้งหมด ดังนั้นกระบวนการเรียนรู้จะต้องถูกร้อยเรียงเข้าไปอยู่ใน core thinking ขององค์กร
เรากำลังเผชิญช่องว่างทักษะที่เกิดขึ้นใหม่ ส่งผลกระทบทั้งในหมู่พนักงานและในกลุ่มผู้นำระดับสูง หากองค์กรไม่ทำการแก้วิกฤตินี้ อาจจะเกิดอุปสรรคในการเปลี่ยนแปลงขององค์กร ซึ่งการวางแผนกำลังการฝึกอบรมและการ reskill พนักงาน จะเป็นแนวทางที่ครอบคลุมที่สุด อีกทั้งยังเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการกับแนวโน้มดังกล่าวได้
ในอนาคตเราจะต้องมีวันในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ถึง 101 วันต่อปี ดังนั้นองค์กรจะต้องนำกระบวนการเรียนรู้ร้อยเรียงให้เข้าไปอยู่ใน core thinking ขององค์กรให้ได้
แล้วองค์กรจะนำการเรียนรู้เข้าไปอยู่ใน way of life ของพนักงานได้อย่างไร?
คุณรวิศย้ำว่า สิ่งใดก็ตามที่ AI สามารถพัฒนาได้จนชำนาญ มนุษย์ไม่ควรต่อกรกับมัน เนื่องจาก AI สามารถเรียนรู้ได้อย่างไม่หยุดยั้ง อีกทั้งเรียนรู้แบบ Collective learning คือเมื่อมีชุดข้อมูลใหม่ๆ ถูกส่งเข้าไปในระบบคลาวด์ AI ก็จะสามารถเรียนรู้ได้หมดทุกตัว แต่วิธีการถ่ายทอดความรู้ของมนุษย์ทำได้เพียงส่งต่อความรู้ระหว่างกันเท่านั้น ดังนั้น สิ่งที่เราควรจะโฟกัสในการพัฒนาคนก็คือการพัฒนาทักษะที่ AI ยังทำไม่ได้ โดยคุณรวิศได้หยิบ 7 ทักษะสำคัญที่มนุษย์ควรจะทำการพัฒนาจาก Harvard Business Review มาเล่าให้ฟัง ดังนี้
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจาก Harvard Business Review, World Economic Forum
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด