ทุกวันนี้อิทธิพลของการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีได้เข้ามาข้องเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของเรามากขึ้นจนตอนนี้ทั่วโลกต่างก็มีการตั้งคำถามถึงประเด็นนี้กันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุดได้เกิดสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสงครามความเป็นส่วนตัวระหว่าง 2 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Facebook ซึ่งนับว่าเริ่มทวีคูณความรุณแรงขึ้นมาเรื่อย ๆ ตอนนี้ประเด็นที่สื่อทั่วโลกต่างส่องสปอตไลท์เข้ามานั้น คือ Tim Cook CEO ของ Apple ที่เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ในงาน European Computers, Privacy and Data Protection Conference ซึ่งเป็นวาทะที่แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อเสียงเรียงนาม แต่ทุกคนก็คิดตรงกันว่าเขาพูดถึง Facebook โดยทีม Techsauce ได้เรียบเรียงประเด็นสำคัญมาดังนี้
"การกระทำดังกล่าวไม่เคยแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามันลดทอนสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัวของเราก่อน และตามมาด้วยผลกระทบต่อโครงสร้างสังคมได้อย่างไร"
อย่างที่ผมได้พูดมาแล้วว่า ถ้าเรายอมรับว่าสิ่งนี้คือความปกติและมีราคาแพงเกินกว่าทุกอย่างในชีวิตเราที่สามารถนำไปใช้และขายได้ มากกว่าการที่เราจึงสูญเสียแค่ข้อมูลส่วนตัว ก็คือ เราสูญเสียอิสรภาพในความเป็นมนุษย์
ถ้าธุรกิจสร้างขึ้นมาจากการชี้นำผู้ใช้งาน ผ่านการนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เพื่อผลประโยชน์สูงสุด และปราศจากทางเลือกให้ผู้ใช้งานอย่างสิ้นเชิง ธุรกิจเหล่านี้ไม่สมควรที่จะได้รับคำชื่นชม แต่สมควรที่จะเกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ในช่วงเวลาที่การบิดเบือนข้อมูล และทฤษฎีสมคบคิดได้ถูกแพร่ขยายผ่านอัลกอริทึม เราทำเป็นหลับหูหลับตาเชื่อไม่ได้อีกต่อไปว่า ทฤษฎีเทคโนโลยีที่อ้างถึงการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งหมด นั่นก็คือ ยิ่งผู้ใช้มี Engagement ในแพลตฟอร์มนานเท่าไร ก็จะยิ่งเกิดสิ่งที่ดีขึ้น และทั้งหมดนี้เองก็จะตามมาด้วยเป้าหมายการเก็บข้อมูลผู้ใช้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะหยุดหลอกลวงว่าวิธีนี้ไม่ได้แลกมากับปัญหาการแตกแยกทางความคิด ปัญหาด้านความเชื่อมั่นและ ใช่ ปัญหาด้านความรุนแรง ภาวะการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ผู้ใช้มีต่อโซเชียลมีเดียนี้ไม่ควรจะทำให้ขยายเป็นภัยอันตรายต่อสังคม
แล้วอนาคตข้างหน้าจะขึ้นอยู่กับนวัตกรรมที่พัฒนาชีวิตเราให้ดีขึ้น เติมเต็มชีวิตของเรามากขึ้น และเพิ่มความเป็นมนุษย์ หรือจะขึ้นอยู่กับเครื่องมือเหล่านี้ที่จะผลักดันความสนใจของเราไปอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจะทวีความหวาดกลัว นำไปสู่การก่อตัวของความคิดแบบสุดโต่ง ซึ่งจะเป็นไปเพื่อโฆษณาเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่กระทบความเป็นส่วนตัวมากกว่าโฆษณาอื่น ๆ
จะว่าผมโลกสวยก็ได้ แต่เชื่อว่าเทคโนโลยีนั้นคิดค้นขึ้นโดยผู้คน เพื่อผู้คน และสุขภาพทั้งกายและจิตของคนเรา เป็นเครื่องมือที่มีคุณค่ามากเกินกว่าจะละทิ้งมันได้ เรายังเชื่ออยู่ว่าสิ่งที่จะวัดประสิทธิภาพเทคโนโลยีได้ดีที่สุด คือ การที่พัฒนาชีวิตคนจนดีขึ้น เราไม่ได้สมบูรณ์แบบ เราจะยังคงทำสิ่งที่ผิดพลาด ซึ่งนั่นแหละ จะทำให้เรามีความเป็นมนุษย์" Tim Cook กล่าว
เนื้อหาจากสุนทรพจน์ของ Tim Cook ดูเหมือนว่าจะเป็นการเรียกร้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติควบคุม Facebook อย่างชัดเจน จากการที่ก่อนหน้านี้ Apple ได้มีการประกาศแผนที่จะเริ่มบังคับให้แอปฯใน iphone ขอความยินยอมจากผู้ใช้ก่อน หากจะติดตามพวกเขาเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณา ดังนั้นต้องรอติดตามกันว่า ทาง Facebook จะออกมาพูดอะไร หรือทางการสหรัฐจะแสดงจุดยืนอย่างไร ในประเด็นนี้ต่อ
รับชมคลิปเต็มได้ที่นี่
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด