ยกระดับการจราจรและขนส่งสาธารณะอัจฉริยะด้วย 5G ผ่านงานสัมมนา True 5G Tech Talk | Techsauce

ยกระดับการจราจรและขนส่งสาธารณะอัจฉริยะด้วย 5G ผ่านงานสัมมนา True 5G Tech Talk

หลังจากเราได้เจาะลึก บทบาทและโอกาสของเทคโนโลยี 5G ที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับและขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมทุกภาคส่วน และ บทบาทของทรู 5G สู่การสร้างเมืองอัจฉริยะ หนึ่งในภารกิจสำคัญของทรู และหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่มีเทคโนโลยี 5G เป็นเบื้องหลังสำคัญ

อีกหนึ่งไฮไลต์จากงานสัมมนา 5G พลิกโฉมประเทศไทย True 5G Tech Talk ครั้งที่ 6 หัวข้อ Intelligent City &  Security การพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนโดย 5G  โดยทรู 5G ร่วมกับ Huawei ASEAN Academy และ Techsauce ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านบริหารจัดการระบบเมืองและอาคารจากต่างประเทศ ได้แก่  Mr.David Goh Vice President APAC Region at PTV มาร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยพัฒนาและแก้ไขปัญหาคุณภาพชีวิตของคน ผ่านโมเดล Smart City ด้านการจราจรและการยกระดับขนส่งสาธารณะ และมุมมองการพัฒนาเมืองอัจฉริยะจากประเทศสิงคโปร์

กรณีศึกษาจากประเทศสเปน กับการใช้โซลูชันยกระดับการบริการรถสาธารณะ 


ในทวีปยุโรป โดยเฉพาะประเทศสเปน เมื่อมีการประกาศข้อกำหนดในการเดินทาง และการประกาศเคอร์ฟิว เพื่อห้ามประชาชนเดินทางออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด ทำให้อัตราผู้ใช้งานรถสาธารณะลดลง ในเดือนมิถุนายน 2564  มีผู้ใช้บริการรถไฟใต้ดินเฉลี่ยวันละ 1.4 ล้านคน ในขณะที่ก่อนเกิดโรคระบาดนั้นมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2.2 ล้านคน ส่วนหนึ่งมาจากการประกาศให้เดินทางเท่าที่จำเป็น ตามมาตรการป้องกันแพร่โรคระบาด พฤติกรรมของผู้ใช้งานจึงเปลี่ยนไปโดยปริยาย อ้างอิงจากผลสำรวจของ Organisation of Consumers and Users (OCU) ประเทศสเปน ผู้บริโภค 31% รู้สึกกังวลเมื่อต้องโดยสารรถสาธารณะด้วยสาเหตุจากกลัวการติดเชื้อ

เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว และให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการเดินทางมากขึ้น Metro de Madrid หรือรถไฟใต้ดินในกรุงมาดริด เลือกใช้โซลูชันจาก PTV Grpup ในการการคาดการณ์ความหนาแน่นของผู้โดยสารในแต่ละวัน ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งาน เพื่อจะวางแผนการเดินรถ เช่น การใช้แอปพลิเคชัน Metro De Madrid เพื่อให้ผู้เดินทางสามารถรับข้อมูล ทั้งระยะเวลาในการรอรถ ความหนาแน่นของรถ เพื่อวางแผนการเดินทางได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น  Mr. David กล่าวว่า หากมีการใช้เทคโนโลยี 5G จะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ถูกส่งต่อได้รวดเร็วมากขึ้น นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการแล้ว Metro de Madrid ยังสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ไปใช้วิเคราะห์และวางแผนการเดินรถได้ด้วย

ไต้หวันกับความท้าทายด้านการจราจรและความแออัดของเมือง

 

ในทวีปเอเชีย ไต้หวันเป็นหนึ่งเมืองที่กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก Teipei City ซึ่งมีประชากร 3.9 ล้านคน และ 94% อาศัยอยู่ในเขตเมือง มีปริมาณรถบนท้องถนนเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี   ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  ไต้หวันกลับมีรายงานยอดขายรถยนต์ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 15 ปี ในปี 2020  ซึ่งปริมาณการใช้รถยนต์ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและปัญหาการจราจร

Mr. David ได้ยกตัวอย่างการบริหารจัดการจราจรของไต้หวัน ในบริเวณ Taipei City, Nangang และ Neihu มีทั้งศูนย์การประชุมขนาดใหญ่ พื้นที่การค้าและอุตสาหกรรม โดยมีการใช้โซลูชันสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะของ PTV Group  ซึ่งสามารถลดความล่าช้าจากการจราจรที่ติดขัดลงได้ถึง 13% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 10% 

เมืองTaichung City เป็นอีกเมืองที่ต้องเผชิญปัญหาความแออัด  ด้วยประชากรกว่า 2.8 ล้านคน  เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 3 ในไต้หวัน และจากข้อมูลของ TomTom ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเสียเวลากับการจราจรที่ติดขัดเฉลี่ยกว่า 226 ชั่วโมงในหนึ่งปี  จึงมีการพัฒนาระบบขนส่งให้ฉลาดขึ้น ด้วย Smart Solution ของ PTV ซึ่งช่วยให้คาดการณ์ปริมาณรถและจัดการการจราจรได้ตลอดเวลา ช่วยลดเวลาการเดินทางได้ถึง 9.5% อีกทั้งยังลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 10%

5G กับการยกระดับคมนาคมและขนส่ง 

 โดยสรุปแล้ว เราจะเห็นว่าจากกรณีศึกษาในเมืองมาดริดและไต้หวัน ทั้งสองเมืองมีการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการจราจร และด้วยระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพนี้ ทำให้การตัดสินใจในการดำเนินการของทั้งสองเมืองอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล   ช่วยให้การจราจรเป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้ประหยัดทั้งเวลา และพลังงาน ซึ่งเป็นตัวอย่างหนึ่งของการสร้างเมืองอัจฉริยะ Mr. David มองว่าศักยภาพของเทคโนโลยี 5G จะเข้ามาปฏิวัติรูปแบบและวิธีการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ดังเช่นที่เราเห็นได้ จากตัวอย่างการจัดการจราจรและการยกระดับขนส่งสาธารณะด้วยเทคโนโลยี  ทำให้เมืองมีโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมที่แข็งแกร่งและฉลาดมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น ภาคธุรกิจโลจิสติกส์ยังเป็นอีกภาคส่วนหนึ่งที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี5G ได้ เช่น การใช้รถขนส่งขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่สามารถติดตามตำแหน่งได้ตลอดเวลา ทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการติดตามสถานะการขนส่ง การวางเส้นทางเดินรถ ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนในการขนส่งได้มากขึ้น  ส่งผลให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นบนพื้นฐานของข้อมูล ซึ่งทำให้บทบาทของเทคโนโลยี 5G จะทวีความสำคัญยิ่งขึ้นไปอีก

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

‘Yindee’ แชตบอตในแอป ttb Touch ใช้ Gen AI จับความรู้สึก ตอบเร็วและฉลาดกว่าที่เคย

Yindee แชตบอตที่อยู่บน Mobile Banking ของ ttb ทำงานผ่านแอป ttb Touch สามารถจับ Mood & Tone ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ว่าขณะแชตนั้น ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ด้วย Generative AI โดย Azur...

Responsive image

คนอยากใช้พลังงานเยอะ แต่โลกอยากได้ปล่อยคาร์บอนน้อย บริษัทพลังงานแก้ไขความย้อนแย้งนี้อย่างไรดีในยุค AI

The Energy/Prosperity Paradox หรือภาวะย้อนแย้งแห่งพลังงาน และความเจริญ ถือเป็นความท้าทายระดับโลกที่บริษัทด้านพลังงานกำลังพบเจอ เพราะในตอนนี้โลกกำลังต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่เ...

Responsive image

เศรษฐกิจไทย ‘ฟื้นตัว’ แล้วหรือยัง ? ฟังความเห็นจาก 3 ผู้นำธุรกิจยักษ์ใหญ่ไทย

ค้นพบศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย จีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา พร้อมโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจในภาคอุตสาหกรรม การเงิน และเทคโนโลยี...