ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่าสนใจและน่าติดตามไปทุกอย่าง สำหรับมหาเศรษฐีนวัตกรระดับโลกอย่าง Elon Musk ล่าสุดเขาก็ได้มีการกล่าวถึงแอปพลิเคชั่นหนึ่ง นั่นคือ Clubhouse ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรูปแบบหนึ่งที่ให้ผู้ใช้สามารถ “สื่อสารผ่านคลิปเสียง” แทนการแชร์ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ ซึ่งจะแตกต่างจากโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ในตลาดอย่าง Facebook และ Twitter หรือจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับแชร์ภาพและวิดีโออย่าง Instagram และ TikTok ในบทความนี้ Techsauce จะพาไปทำความรู้จักกับแพลตฟอร์มนี้กัน เพื่อที่จะคลายข้อสงสัยกันว่า ทำไมผู้นำเทรนด์โลกอย่าง Elon Musk   ถึงเลือกแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ที่นี่ 

Clubhouse คืออะไร

Clubhouse คือ โซเชียลมีเดียแอปพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ที่ผู้ใช้สามารถแชร์คลิปเสียงเกี่ยวกับเรื่องราวที่สนใจ โดยทุกคนสามารถแชร์เรื่องราวของตน ทำความรู้จักกับผู้ใช้คนอื่น และยังสามารถพูดคุยปรึกษากันในเรื่องต่างๆ ได้ ซึ่งถูกพัฒนาโดย Paul Davison และ Rohan Seth และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 มีการรายงานจาก CNBC ว่าบริษัทผลิตแอปพลิเคชั่นนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 100 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ

สำหรับการใช้งานนั้น ผู้ใช้ทุกคนเมื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชั่นแล้วจะสามารถเลือกเข้า “ห้องสนทนา” ที่สนใจได้ เมื่อเข้าไปในห้องสนทนาแล้วระบบบันทึกเสียงในห้องจะเปิดให้ใช้งานแบบอัตโนมัติ โดยที่เจ้าของห้องสนทนาจะเป็นคนเลือกผู้พูดเอง ซึ่งในแต่ละห้องสนทนาจะมีเนื้อหาที่แตกต่างกันไปตามความสนใจของเจ้าของห้อง จึงทำให้ในแต่ละห้องสนทนาเป็นเหมือนการพบปะพูดคุยที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็น และสอบถามเรื่องที่สนใจได้อย่างเต็มที่

ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเลือกเข้าห้องสนทนาต่างๆ ได้ทุกเมื่อ และสามารถสร้างห้องสนทนาในหัวข้อที่ตนสนใจได้เช่นกัน โดยหัวข้อส่วนใหญ่ที่ใช้ในการสนทนานั้นจะเป็น ปัญหาทางการเมือง ชีวิตประจำวัน และเรื่องราวบันเทิงต่างๆ

สำหรับความโดดเด่นที่สุดของ Clubhouse ที่ทำให้แอปพลิเคชั่นนี้แตกต่างจาก Facebook, Instagram หรือ Twitter คือ การสนทนาและแชร์เรื่องราวด้วยเสียง โดยมีการสร้างพื้นที่ในแอปพลิเคชั่นนี้ให้เป็น Camera-free Environment ซึ่งมันจะมีข้อดีคือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมากังวลเรื่องความพร้อมหน้ากล้อง ทั้งเรื่องการแต่งกาย หรือการสร้าง Eye contact กับคู่สนทนา

โดยทาง Clubhouse เชื่อว่า “น้ำเสียง และโทนเสียงที่ทุกคนพูดออกมาสามารถสื่อสารอารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ออกมาได้เช่นกัน ด้วยเสียงที่เปล่งออกไปทุกคนสามารถสร้างได้ทั้งบทสนทนาที่ดีๆ และสร้างความเข้าใจกันได้ จึงทำให้เราสร้างแอปพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา”

แล้วจะเข้าร่วม Clubhouse ได้อย่างไร

การจะเข้าร่วม Clubhouse ในตอนนี้นั้น ผู้ใช้ใหม่จะต้องได้รับคำเชิญจากผู้ใช้ที่อยู่ในแพลตฟอร์มอยู่แล้วเท่านั้น (Invitation Only) โดยในตอนนี้มีผู้ใช้งาน Clubhouse แล้ว 600,000 คน ซึ่งถ้าเทียบกับแอปพลิเคชั่นชื่อดังอย่าง Facebook ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 2.7 พันล้านคน และ Twitter ที่มีผู้ใช้งานกว่า 330 ล้านคน Clubhouse ยังถือเป็นแอปพลิเคชั่นที่มีผู้ใช้งานน้อยอยู่

ซึ่งตอนนี้ทาง Clubhouse ออกมาแจ้งแล้วว่ากำลังมีการพัฒนาระบบให้ทุกคนที่สนใจสามารถเข้าร่วมในแพลตฟอร์มนี้ได้ และจะทำให้ทุกคนทั่วโลกได้รู้จักกับ Clubhouse ในไม่ช้า แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการออกมายืนยันแน่ชัดว่าการเข้าร่วมแอปพลิเคชั่นแบบไม่ต้องรอคำเชิญนั้นจะเกิดขึ้นจริงเมื่อไหร่

โดยในตอนนี้ผู้ใช้ iPhone สามารถดาวน์โหลดและเข้าแอปพลิเคชั่นได้ แต่การจะเข้าร่วมห้องสนทนานั้นยังต้องรอคำเชิญจากเจ้าของห้องให้เข้าร่วมเท่านั้น

“สิ่งนี้มันทำให้เราสามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ในแอปพลิเคชั่นได้ เพราะตอนนี้ทีมของเรายังเล็กและเรายังไม่มีฟีเจอร์ที่สามารถรองรับคนจำนวนมากๆ ได้ มันจึงทำให้สิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งข้อดีของแอปพลิเคชั่นนี้” Clubhouse กล่าว

การเข้าร่วม Clubhouse แบบ Invitation Only นี้เป็นเหมือนกับเอกลักษณ์หนึ่งของแอปพลิเคชั่นที่ทำให้หลายคนสนใจ และในตอนนี้ก็มีคนดังระดับโลกหลายคนที่นอกเหนือจาก Elon Musk เข้าร่วมไม่ว่าจะเป็น Oprah Winfrey, Jared Leto และ Chris Rock

ตัวอย่างเรื่องที่ Elon Musk แชร์บน Clubhouse  

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา มหาเศรษฐี Elon Musk ได้มีการ Live ผ่าน Clubhouse ซึ่งเขาได้พูดถึงหลายๆ ประเด็น และประเด็นสำคัญที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ “แผนการใช้ชีวิตบนดาวอังคาร”

โดย Musk ได้วางแผนที่จะพามนุษย์ไปตั้งรกรากที่ดาวอังคารในอนาคต ซึ่งเขาเคยกล่าวไว้ว่าจะพามนุษย์ขึ้นไปดาวอังคารให้ได้ภายในปี 2024 นอกจากนี้เขายังกล่าวใน Live อีกว่าการเดินทางไปดาวอังคารอาจจะเกิดได้เพียงปีละ 2 ครั้ง เพราะวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวอังคารนั้นต่างกับวงโคจรโลก 

แผนการเดินทางไปดาวอังคารของมหาเศรษฐีในครั้งนี้มีคนพูดถึงมากมายในหลายแง่มุม ทั้งเรื่องเทคโนโลยีที่ดูแล้วว่ายังไม่มีเครื่องมือใดบนโลกนี้ที่จะทำได้ และยังรวมไปถึงประเด็นที่ว่า คนที่จะขึ้นไปดาวอังคารได้นั้นคงจะมีแค่ระดับมหาเศรษฐีเท่านั้น

ทีม  Techsauce ยกตัวอย่างคอนเทนท์ของ Elon Musk แค่เรื่องดาวอังคารยังน่าสนใจขนาดนี้ ถ้าหากใครอยากที่จะมาฟังเขาในทุกๆ ก็สามารถเข้าไปได้ที่นี่เลย

อ้างอิง Today.com ,CNET