เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ แอปพลิเคชัน Clubhouse ซึ่งเป็น แอปพลิเคชันรูปแบบใหม่ที่ผู้ใช้สามารถแชร์คลิปเสียงเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่สนใจบนแพตฟอร์มนี้ได้ และหลังจากที่มหาเศรษฐีนวัตกรระดับโลกอย่าง Elon Musk ได้เอ่ยถึงแอปพลิเคชันดังกล่าว ทำให้หลายคนต้องการที่จะเข้าร่วม จนตอนนี้ Clubhouse ได้กลายเป็นUnicorn (ยูนิคอร์น) ภายในเวลาไม่กี่เดือน และวันนี้ Techsauce จะพามาดูว่าทำไมแอปพลิเคชั่นตัวนี้ถึงได้มาแรงแซงทางโค้งขนาดนี้

Clubhouse คืออะไร 

Clubhouse เป็นแอปพลิเคชันแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมาแรงที่มีฟีเจอร์เป็นเอกลักษณ์ คือ ผู้ใช้สามารถสื่อสารผ่านคลิปเสียงได้ เปรียบเสมือนการมาเข้าฟัง podcast แบบไลฟ์และพูดคุยได้อย่าง real time  แทนการแชร์ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ ซึ่งจะแตกต่างจากโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ในตลาดอย่าง Facebook และ Twitter หรือจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับแชร์ภาพและวิดีโออย่าง Instagram และ TikTok ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวถูกพัฒนาโดย Paul Davison และ Rohan Seth และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020

เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 8 เดือนก่อน Clubhouse มีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันได้เพียง 5,000 บัญชี และตัวแอปพลิเคชันยังอยู่ในเวอร์ชันทดลองและยังไม่ได้ปล่อยลงใน App Store อีกทั้งไม่มีแอปพลิเคชันในระบบปฏิบัติการ android แต่สิ่งที่ชวนประหลาดใจก็คือ บริษัทสามารถระดมทุนรอบแรกได้มากถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตอนนี้ก็มีผู้ใช้งาน Clubhouse แล้ว 600,000 บัญชี 

ทำไม Clubhouse จึงจะกลาย Unicorn ภายในเวลา 8 เดือน ?

Clubhouse เป็นแอปพลิเคชันที่เกิดมาเพื่อแก้ไขปัญหาทั่วไปของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย startup ได้สร้างทีม Moderator เพื่อเข้าควบคุมคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ โดยตำแหน่ง moderator มาคุมเนื้อหาให้มี ‘ความน่าเชื่อถือและปลอดภัย’ เพื่อรับมือกับปัญหาการกลั่นแกล้งด้วยคำพูดและป้องกันปัญหาก่อความวุ่นวายบนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ แอปยังได้สร้าง Creator Pilot Program เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตคอนเทนต์อย่างเต็มที่ผ่านระบบการจัดการและเครื่องมือเฉพาะต่าง ๆ 

นอกจากนี้ Andreessen Horowitz บริษัทลงทุน Venture Capitalist ให้กับ Clubhouse ในรอบ Series A ได้กล่าวว่า “นวัตกรรมการใช้เสียงในแพลตฟอร์มของทศวรรษถัดไปจะเข้ามาแข่งขันเอาชนะกับสิ่งที่เราได้เห็นผ่านแอปพลิเคชันวิดีโอในไม่กี่ปีที่ผ่านมา” ซึ่งคำพูดได้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเทรนด์จากการฟังแบบผ่านหู (passive) จาก podcast หรือหนังสือเสียง เป็นการฟังที่เรามีส่วนร่วมมากขึ้น (active)  หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็น่าติดตามว่า Clubhouse จะมีอะไรให้ชวนตื่นเต้นในปี 2021 นี้ 

และยิ่งไปกว่านั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Clubhouse ได้แถลงว่าจะระดมทุนในระดับ Series B กล่าวคือพร้อมขยายบริษัทให้ใหญ่ขึ้นแล้ว และคาดว่ามูลค่าบริษัทจะไปได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ฟีเจอร์และการใช้งานของ Clubhouse

สำหรับฟีเจอร์และการใช้งานของ Clubhouse จะให้อารมณ์คล้ายกับการประชุมสาย หรือ Call Line Group พร้อมกันกับเพื่อนหลายคน แบบที่เราไม่เห็นหน้ากัน และไม่สามารถย้อนกลับไปฟังเนื้อหาที่เริ่มสนทนากันตั้งแต่ตอนต้นได้ แต่ที่หน้าสนใจคือ เราสามามารถเชิญแขกรับเชิญ หรือ speaker ที่มีเชื่อเสียงจากทั้งในและต่างประเทศเข้ามาร่วมพูดคุยในคลับของเราได้  ตอนนี้บุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคนนอกเหนือจาก Elon Musk ที่ได้เข้าร่วม Clubhouse ไม่ว่าจะเป็น Oprah Winfrey, Jared Leto และ Chris Rock รวมถึงเหล่าผู้บริหารในประเทศไทยอีกหลายท่านอีกด้วย

และที่สำคัญระบบการควบคุมผู้คนของ  Clubhouse ค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว โดยผู้ที่มีสิทธิ์ควบคุมขั้นเด็ดขาดคือ ผู้ที่เป็น Moderator เท่านั้น ซึ่งจะสามารถเลือกผู้ที่จะมาเป็น Speaker หรือจะลดใครให้เป็น Audience ที่มีสิทธิแค่นั่งฟังเฉยๆก็ได้ แต่ในระหว่างนั้นหากต้องการพูดหรือแสดงความคิดเห็นก็สามารถยกมือขึ้นระหว่างการสนทนา แล้ว  Moderator ก็จะพิจารณาให้เราสามารถพูดหรือถามได้นั้นเอง 

ข้อจำกัดของ Clubhouse 

อย่างไรก็ตาม  Clubhouse ยังมีข้อจำกัดอยู่ คือ แอปพลิเคชันนี้จะใช้ได้แค่กับระบบ IOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัตการของ Apple เท่านั้น ส่วนระบบปฏิบัติการ Android จะตามมาภายหลัง และการที่เราจะเข้าล็อคอินได้จะต้องได้รับการ Invite จากผู้ใช้งานคนอื่นก่อน และที่สำคัญผู้ใช้งาน 1 คน สามารถเชิญเพื่อนเข้าไปใน Clubhouse ได้เพียง 2 Invite เท่านั้น และการ Invite จะต้องทำผ่าน SMS โดยเราจะต้องเมมเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่เราต้องการจะ Invite เข้าไปใน Contact ของโทรศัพท์มือถือก่อน หากใส่เบอร์ผิด แล้วกด Invite ไปเราก็จะเสีย Invite ไปแบบฟรีๆและไม่สามารถ Cancel ได้ เรียกได้ว่าตอนนี้โควตา Invite ของ Clubhouse ในมือค่อนข้างมีมูลค่ามากเลยทีเดียว 

ก็เรียกได้ว่าเป็นแอปพลิเคชันที่น่าสนใจและเปิดโลกทัศน์ไม่น้อยสำหรับ Clubhouse หากใครที่อยากจะเข้ามาแอบฟังเซเลปคนดัง ในแวดวงต่างๆทั้งในไทยและต่างประเทศเล่าเรื่องราวให้ฟังกันแบบ Exclusive ก็อย่าลืมโหลดมาเล่นกันนะคะ แค่คิดก็น่าตื่นเต้นแล้ว และที่สำคัญก็ขอฝากคลับของ Techsauce  ไว้ให้คุณผู้อ่านติดตามกันด้วย ซึ่งเราจะมีการจัด session ที่น่าสนใจมาพูดคุยในทุกๆวันแบบสนุก ครบรสและแฝงไปด้วยความรู้ นอกจากนี้เรากำลังจะภาคภาษาอังกฤษที่สามารถเชื่อมต่อกับ spaeker ระดับโลก มาเสิร์ฟคอนเทนต์ให้คนไทยในสไตล์ของเราเช่นเคยด้วย 

อ้างอิง thehustle , forbes