YouTube เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพื่อแข่งขันในอุตสาหกรรมแพลตฟอร์มอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอ Partner Program ในการสร้างรายได้บน YouTube ทั้งการมีส่วนร่วมครีเอทีฟคอนเทนต์และโฆษณาบนแพลตฟอร์ม อย่างการนำเสนอโมเดลแบ่งรายได้จากโฆษณา 45% แก่ผู้สร้างวิดิโอนั้นๆ บน YouTube Shorts การปรับปรุงครั้งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความตั้งใจที่จะดึงดูดเหล่าครีเอเตอร์ที่ทีความสามารถในการสร้างสรรค์จาก Tiktok สู่แพลตฟอร์ม
เมื่อวันที่ 20 กันยายน Google บริษัทแม่ผู้เป็นเจ้าของ Youtube ได้ประกาศที่งาน “Made on YouTube” ว่ากำลังปรับลดมาตรฐานสำหรับครีเอเตอร์ในการสร้างรายได้ เพื่อดึงดูดให้เหล่าครีเอเตอร์เข้ามาสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้นบนแพลตฟอร์ม นับเป็นการขยับขยายที่ใหญ่ที่สุด สำหรับ Monetization Program ของ YouTube ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เราจะสนับสนุนเครื่องมือสำหรับครีเอเตอร์ ทั้งมือเก่ามือใหม่ ในการสร้างรายได้จากการสร้างคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น ลบข้อจำกัดและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด
อันดับแรกที่เปิดตัวมาและได้รับความสนใจมาก คือ โปรแกรมการแบ่งรายได้ใหม่สำหรับครีเอเตอร์วิดิโอผ่าน Youtube Shorts หรือฟีเจอร์แชร์วิดิโอขนาดสั้น ความยาวไม่เกิน 60 วินาที ที่มีหน้าตาคล้ายวิดิโอ Tiktok หรือ Reels/Instagram Story นั่นเอง
โดย Youtube Shorts ที่มีผู้ติดตามอย่างน้อย 1,000 คน และมียอดการเข้าชม 10 ล้านวิว ภายในระยะเวลา 90 วันจะสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ที่เปิดตัวใหม่นี้ได้ โดยโฆษณาบน Shorts จะปรากฏระหว่างวิดีโอในฟีด (ซึ่งบริษัทได้เริ่มทดลองโฆษณาบน Shortsในเดือนพฤษภาคมก่อนหน้า) โดยรายได้จากโฆษณาจะถูกรวบรวมและแบ่งให้ 45% แก่ผู้สร้างวิดิโอนั้นๆ และยังได้รับส่วนแบ่งจากยอดการเข้าชมตามเดิม โดยก่อนหน้านี้ครีเอเตอร์ จะทำเงินได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ติดตามอย่างน้อย 1,000 คนและผู้ชมดูวิดีโอของพวกเขาอย่างน้อย 4,000 ชั่วโมง ตอนนี้ ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตาม 1,000 คนและการดู Shorts 10 ล้านครั้งในช่วง 90 วันก็สามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาของพวกเขาได้เช่นกัน
ซึ่งหากพิจารณาดูดีๆ สายอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์จะรู้ดีว่า Youtube ไม่ใช่เจ้าแรกที่ทำแบบนี้ โดย ก่อนหน้าที่ Youtube จะประกาศแบ่งปันพื้นที่การสร้างรายได้สำหรับครีเอเตอร์ โมเดลการให้เงินผู้ใช้ที่สร้างสรรค์คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มนั้นมีมาก่อนหน้านี้ โดย Tiktok แอปฯวิดิโอสั้นยอดนิยม คือ ผู้นำในเรื่องนี้ อิทธิพลของ Tiktok ที่เติบโตทั้งด้านผู้ใช้งานและฟีเจอร์ใหม่ๆ อินสไปร์แก่แพลตฟอร์มอาวุโสอย่าง Facebook รวมถึง Youtube
หน้าไทม์ไลน์โซเชียลมีเดียในปัจจุบันได้เปิดพื้นที่แก่ครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว การลดขีดจำกัดสำหรับครีเอเตอร์ นับป็นการเคลื่อนไหวที่สำคัญซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าระบบนิเวศของผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อสิบปีที่แล้วเป็นอย่างมาก อ่านเพิ่มเติมได้ที่ จับตาศึก Vertical Video ระหว่าง Tiktok Stories , IG Stories , Reels ฟีเจอร์ใดจะครองใจผู้ใช้งาน
ปัจจุบันหลายแพลตฟอร์มต่างกำลังนำเสนอ ฟีเจอร์วิดีโอแบบแนวตั้ง หริอ Vertical Video ของตนเพื่อแข่งขันกับ Tiktok สำหรับ YouTube นั้นตื่นตัวต่อกระแสในช่วงปลายปี 2020 ด้วยการ เปิดตัว Youtube Shorts ฟีเจอร์วิดิโอสั้นที่เล่นวิดิโอความยาวไม่เกิน 60 วินาทีโดยสามารถดึงดูดผู้ชมมากกว่า 1.5 พันล้านคนต่อเดือน และมียอดผู้ชมถึง 6,500 ครั้งต่อวัน ตามพี่ใหญ่อย่าง Meta ที่ดูแลทั้ง Facebook และ Instagram ที่ได้พัฒนาแพลตฟอร์มของตนเพื่อแข่งขันกับ TikTok นับตั้งแต่เปิดตัว Reels ในปี 2020
นักวิเคราะห์จาก TIMES อ้างอิงถึงสถิติว่า ถึงแม้ Youtube จะมีผู้ใช้งานมากกว่า 2 พันล้านรายต่อเดือน แต่ความนิยมของ TikTok นั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้งานเฉลี่ยต่อเดือนของ TikTok เพิ่มขึ้น 234% ในไตรมาสที่สองของปี 2022 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 ในขณะที่ YouTube เติบโตขึ้นเพียง 29% ตามข้อมูลจาก Sensor Tower ชัดเจนว่า Youtube กำลังก้าวสู่การแข่งขันกับ Tiktok อย่างเข้นข้นไม่แพ้เจ้าอื่น
นอกจากนี้ Youtube ยังพร้อมนำเสอ "Creator Music" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ YouTube Studio ที่อนุญาตให้สามารถใช้เพลงที่ติดลิขสิทธิ์เพื่อประกอบผลงานได้แล้ว
จากเดิมที่หากครีเอเตอร์ใช้ ‘เพลงติดลิขสิทธิ์’ จะทำให้คลิปที่เผยแพร่ออกไปถูกลบเสียงหรือถูกบล็อกได้ โดยครีเอเตอร์จะสามารถเลือกจ่ายเงินผ่านทางระบบของ Youtube ได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยนไปยังแพลตฟอร์มขอซื้อลิขสิทธิ์อื่นๆ โปรแกรมนี้จะช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างผลงานได้อย่างเต็มที่ มีทางเลือกในการใช้เพลงโดยไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า และครีเอเตอร์และศิลปินผู้ถือครองลิขสิทธิ์จะได้ส่วนแบ่งรายได้จากวิดีโออีกด้วย
YouTube ยังได้ประกาศเกณฑ์ใหม่สำหรับ Partner Program ที่พัฒนาจากช่องทางการสนับสนุนจากแฟนคลับก่อนหน้านี้สำหรับครีเอเตอร์สายเกมเมอร์และบิวตี้บล็อกเกอร์ เช่น Super Thanks, Super Chat, Super Stickers และ Channel Memberships เพื่อให้รางวัลแก่ครีเอเตอร์ในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะถูกพัฒนาและเปิดตัวอีกจำนวนมาก
Neal Mohan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทยังกล่าวชัดเจนถึงการสนับสนุนเครื่องมือสำหรับครีเอเตอร์มือเก่ามือใหม่ เพื่อสนับสนุนให้ครีเอเตอร์สร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น ลบข้อจำกัดและสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ซึ่งรายละเอียดจะทยอยเปิดเผยในปี 2023 เป็นต้นไป
อ้างอิงข้อมูลจาก
Made on YouTube: supporting the next wave of creative entrepreneurs
YouTube's Next Move in the Race to Beat TikTok
YouTube Targets TikTok With Monetization For Creators' Short Videos
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด