การเข้าซื้อกิจการระหว่าง Zipevent แพลตฟอร์มจัดการอีเวนต์และจำหน่ายบัตรออนไลน์ในประเทศไทย กับ Link Station Group บริษัทญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจำหน่ายบัตร (Ticketing System) ถือเป็นก้าวสำคัญในวงการอุตสาหกรรม โดยการร่วมมือครั้งนี้จะไม่เพียงช่วยให้ Zipevent ขยายตัวเข้าสู่ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังเป็นการทำ M&A ครั้งแรกของ Link Station Group ในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งบ่งบอกถึงศักยภาพของ Zipevent ในการเป็นศูนย์กลางการขยายธุรกิจของภูมิภาค

ภาพ : ผู้ร่วมก่อตั้ง Zipevent (ภาโรจน์ เด่นสกุล (CEO), กิตติ์โภคิน อังศุธรนิธิวิกุล (COO), ณิชา ชินสิริกุล (CDO), โศลญา ตันฑ์มานะธรรม (CMO), ณฐพงศ์ ทองคำคูณ (CXO), ทวีเกียรติ กิตติญาณปัญญา (CTO)

จุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่าง Zipevent และ Link Station Group

คุณภาโรจน์ เด่นสกุล CEO ของ Zipevent ได้เล่าให้ฟังถึงดีลนี้เกิดขึ้นจากการเจรจาที่ยาวนานเกือบปี โดยทั้งสองบริษัทได้เดินทางไปมาระหว่างไทยและญี่ปุ่นเพื่อพูดคุยในรายละเอียดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดย Link Station Group มองเห็นว่า Zipevent เป็น Strategic Partner ที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำในการขยายตลาดทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“เรามองเห็นศักยภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในสาย Entertainment ซึ่งมีโอกาสให้เราได้เข้าไปทำตลาด ซึ่งการจะไปตรงนั้นเราต้องมองหา Partner ที่ ซึ่ง Link Station เป็นบริษัทที่จะเป็น Strategic Partner ที่ดีให้กับเรา”

เป้าหมายในการ IPO

Link Station Group ตั้งเป้าที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นภายใน 4 ปี โดยมีแผนขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ลงทุนในไต้หวันและเวียดนามมาแล้ว การร่วมมือกับ Zipevent ครั้งนี้ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจในประเทศไทย แต่ยังเป็นโอกาสที่ทำให้เข้าถึงตลาดประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเติบโตและความยั่งยืนให้กับทั้งสองบริษัท

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลังปิดดีล

คุณภาโรจน์ ได้เล่าว่า ดีลครั้งนี้  Link Station Group จะถือหุ้นส่วนใหญ่ ใน Zipevent ซึ่ง Zipevent จะต้องปรับตัวหลายด้านเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการบริหารจัดการของ Link Station Group ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การตั้งเป้าหมายผลประกอบการ (KPI) การรายงานงบการเงินอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อสร้างมาตรฐานที่สอดคล้องกับความคาดหวังของ Link Station Group และการลงทุนที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ในระยะยาว

โดยยังมีทิศทางการบริหารและพัฒนา Product & Service ได้แก่

1. การพัฒนาเทคโนโลยีและการผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์ตลาด 

Zipevent วางแผนที่จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยี Blockchain และ Dynamic Pricing มาใช้ในการควบคุมราคาบัตร จัดการบัตรอีเวนต์ เพื่อลดปัญหาการขายต่อบัตรในราคาที่สูงเกินจริง นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาระบบสำหรับลงทะเบียนและการเลือกที่นั่งที่สามารถปรับตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงฟีเจอร์ Resale ที่ช่วยควบคุมการขายบัตรต่อในตลาดได้อย่างเหมาะสม

2. การขยายตลาดและการแข่งขันในอุตสาหกรรม Entertainment/Sports

ในปัจจุบัน Zipevent เป็นที่รู้จักดีในกลุ่มการจัดงานประเภท Conference และ Exhibition ในประเทศไทย แต่ในตลาดบันเทิง เช่น คอนเสิร์ตและการแสดงอื่นๆ ยังต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง Thai ticket major ที่ครองตลาดนี้อยู่ ด้วยแผนการขยายธุรกิจและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ Zipevent คาดว่าจะสามารถสร้างจุดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้ได้ โดยจะมุ่งเน้นการให้บริการที่ครบวงจรและเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้าทั้ง B2B และ B2C ในประเทศไทยและภูมิภาค

การเติบโตของบริษัทและบทเรียนของการเป็น Startup

Zipevent ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 เรียกว่าอยู่ในช่วงยุคแรกๆ ของวงการ Startup ไทย ด้วยผู้ร่วมก่อตั้งจำนวน 6 คน ซึ่งวันนี้ทุกคนยังคงทำงานอยู่ ทิศทางของ Zipevent ตั้งแต่วันแรกคือ เน้นการสร้างรายได้และผลกำไร โดยอาจยังไม่เน้นการระดมทุนเหมือน Startup อื่นๆ 

“ผมมองว่าธุรกิจที่โตแบบเน้นกำไร ต้องมีนักลงทุนสักคนที่ Match กันแล้วเห็นคุณค่าส่วนนี้”

กลยุทธ์นี้อาจไม่ได้ทำให้ Zipevent เติบโตไว แต่ก็ช่วยให้ Zipevent ผ่านวิกฤตต่างๆ เช่น ช่วงโควิด-19 มาได้ ด้วยการปรับตัว พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างรวดเร็ว Zipevent ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการเติบโต 50% ต่อปี 

เทรนด์ในอุตสาหกรรม Event ต่อจากนี้

หลังโควิด-19 ตลาดอีเวนต์มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มบันเทิงที่มีการเติบโตสูงกว่า B2B Zipevent ได้เล็งเห็นโอกาสนี้และตั้งเป้าที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ระบบการจัดจำหน่ายบัตรแบบ Resale ที่ควบคุมราคาได้ พร้อมทั้งพัฒนาระบบที่ใช้ AI และบล็อกเชนในการเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพให้กับการจัดงาน

ในปีหน้า Zipevent ตั้งเป้าหมายเติบโต 50% โดยวางแผนที่จะขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C พร้อมมุ่งเน้นการเจาะตลาดต่างประเทศหากมีโอกาสที่เหมาะสม โดยในประเทศไทย Zipevent จะสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอบริการที่เน้นคุณภาพและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ

เพราะฉะนั้นการร่วมมือระหว่าง Zipevent และ Link Station Group เป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของ Zipevent โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มจัดงานอีเวนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในด้านการจัดการบัตรและการแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าพบในตลาด แม้ว่าตลาดนี้จะมีการแข่งขันสูง แต่การร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างฐานลูกค้าและขยายตลาดของ Zipevent ในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการเติบโตได้ในระยะยาว