สรุป 10 กฎเหล็กแห่งการทรานส์ฟอร์ม แนวทางสร้างองค์กรให้อยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืน จากคุณกระทิง พูนผล

ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความผันผวน การ "Transformation" หรือการปรับเปลี่ยนองค์กร ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นหนทางสู่การอยู่รอดและก้าวขึ้นเป็นผู้นำ บนเวที Techsauce Global Summit 2025 คุณกระทิง พูนผล แห่ง Disrupt Technology Venture ได้แบ่งปันประสบการณ์และกลั่นกรองออกมาเป็น 10 กฎเหล็กที่เปรียบเสมือนเข็มทิศสำหรับผู้นำทุกคนที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรให้ผ่านพ้นคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง

บทความนี้จะเจาะลึกทุกรายละเอียดจากเซสชัน เพื่อให้คุณเข้าใจแก่นแท้ของแต่ละกฎ และนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รากฐานสำคัญ: 3 ระยะของการทรานส์ฟอร์ม (The 3 Phases of Transformation)

ก่อนจะไปถึงกฎทั้ง 10 ข้อ คุณกระทิงได้ปูพื้นฐานว่าการทรานส์ฟอร์มที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่การทำทุกอย่างพร้อมกัน แต่เป็นการเดินทางที่เป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งโดยทั่วไปประกอบด้วย 3 ระยะสำคัญ:

  1. สร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง (Strengthen Foundation): นี่คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด คือการกลับมาดูพื้นฐานขององค์กรให้มั่นคงแข็งแรงเสียก่อน
  2. บริหารเพื่อสร้างคุณค่า (Manage for Value): เมื่อรากฐานมั่นคงแล้ว ขั้นต่อไปคือการบริหารจัดการเพื่อสร้างคุณค่าและผลกำไรให้เกิดขึ้นจริง
  3. บริหารเพื่ออนาคต (Manage for Future): ระยะสุดท้ายคือการมองไปข้างหน้าและบริหารจัดการเพื่อการเติบโตในอนาคต 

กรณีศึกษา: LEGO - จากวิกฤตสู่ตำนาน

LEGO คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการเดินตาม 3 ระยะนี้ จากบริษัทที่เกือบล้มละลาย พวกเขาใช้เวลาถึง 13 ปีในการทรานส์ฟอร์มตัวเอง 

  • ระยะที่ 1 (2004-2005): Strengthen Foundation. LEGO เผชิญวิกฤตหนัก สิ่งแรกที่ทำคือการ "Stop the bleeding" หรือหยุดเลือดที่ไหลออก โดยเน้นการบริหารกระแสเงินสด (Cash Flow Management) เพื่อให้บริษัทกลับมามีเสถียรภาพทางการเงินอีกครั้ง
  • ระยะที่ 2 (2006-2008): Manage for Value. เมื่อบริษัทเริ่มมั่นคง พวกเขาเข้าสู่ช่วงแสวงหาคุณค่าและกำไร (Value & Profit Seeking) พร้อมกับกลยุทธ์ที่กล้าหาญในขณะนั้นคือ "เราจะไม่เติบโตในระหว่างที่กำลังซ่อมแซมประสิทธิภาพการผลิต" (Let's not grow while we're fixing our productivity) ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่จำเป็น
  • ระยะที่ 3 (2009 เป็นต้นไป): Manage for Future. เมื่อภายในแข็งแกร่งแล้ว พวกเขาจึงเริ่มบริหารจัดการเพื่อการเติบโต (Growth Management) และตั้งคำถามสำคัญว่า "อะไรคือสิ่งต่อไป?" (What's next?) 

การทรานส์ฟอร์มของ LEGO ไม่ใช่แค่การปรับแผนธุรกิจ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงใน 4 มิติสำคัญ:

  • Business Model: กลับมาโฟกัสที่การสร้างคุณค่าหลัก (Refocused on Core Value Creation) 
  • Operating Model: เปลี่ยนจากความสับสนวุ่นวายสู่ความสอดประสาน (From Chaos to Coherence) 
  • Talent & Culture: เปลี่ยนจากความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด สู่ "ความคิดสร้างสรรค์ภายใต้ข้อจำกัด" (From Unconstrained Creativity to "Creativity with Constraints") ซึ่งทำให้เกิดนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง
  • Leadership: เปลี่ยนจากการนำด้วยวิสัยทัศน์เพียงอย่างเดียว สู่การขับเคลื่อนด้วยการลงมือทำ (From Vision-Lead to Execution-Driven) 

10 กฎเหล็กสู่การทรานส์ฟอร์มที่สำเร็จ

กฎข้อที่ 1: เริ่มต้นโดยมีภาพสุดท้ายเป็นดาวเหนือ (Start with the End as Your North Star)

การทรานส์ฟอร์มเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและกล้าหาญ ผู้นำไม่ได้มีหน้าที่แค่ฝัน แต่ต้องสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์นั้นออกมา "ราวกับว่ามันได้เกิดขึ้นจริงแล้ว" (Speak It Into Reality) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจให้คนอื่นพร้อมจะเดินตาม วิสัยทัศน์นี้ต้องถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการกระทำที่สอดคล้องกัน ทั้งการลงทุนในบุคลากร การสร้างความชัดเจนในกลยุทธ์ และการสร้างความร่วมมือจากทุกคนในทีม 

กฎข้อที่ 2: การทรานส์ฟอร์มต้องเริ่มที่ผู้นำ (Transformation Starts With Leaders)

คุณกระทิงย้ำว่า "ผู้นำในที่นี้คือคุณ!" การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นเลยหากผู้นำไม่ลงมือทำเป็นคนแรก ทัศนคติ (Mindset), พฤติกรรม (Behaviors), และการกระทำ (Actions) ของคุณ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของทั้งองค์กร ที่สำคัญ ผู้นำต้องเข้าใจ "วงจรชีวิตขององค์กร" (Corporate Life Cycle) เพื่อเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม เพราะบริษัทในระยะ Startup ย่อมต้องการแนวทางที่ต่างจากบริษัทในระยะ Mature Stable หรือ Decline การใช้กลยุทธ์ผิดระยะ อาจนำมาซึ่งความล้มเหลวได้

กฎข้อที่ 3: นำด้วยความเข้าอกเข้าใจ (Lead With Empathy, Make the Change Personal & Purposeful)

ยิ่งการเปลี่ยนแปลงยากลำบากเท่าไหร่ ความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) ยิ่งจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น คุณกระทิงชี้ว่า Empathy คือ "การเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น แม้ในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้พูดออกมา" ผู้นำที่เปี่ยมด้วยความเข้าอกเข้าใจ (Empathic Leadership) จะต้องสามารถ:

  • รับฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) 
  • เอาใจเขามาใส่ใจเรา (Put Yourself in Their Shoes) 
  • สร้างความไว้วางใจ (Build Trust) 
  • ยอมรับความรู้สึกของผู้อื่น (Validate Others' Feelings) 
  • มีความจริงใจ (Be Genuine) ท้ายที่สุดแล้ว ผู้นำต้องสร้างตัวเองให้เป็น "ผู้นำแบบที่คุณเองก็อยากจะทำงานด้วย" 

กฎข้อที่ 4: ให้ความสำคัญกับคนเป็นอันดับแรก (Put People First and at the Center of Every Transformation)

"คน" คือหัวใจของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งครอบคลุมทั้งลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกการกระทำต้องมุ่งไปที่การสร้างคุณค่า (Create Value) ให้กับคนเหล่านี้

กฎข้อที่ 5: การทรานส์ฟอร์มที่ดีต้องเป็นแบบองค์รวม (Good Transformations are Holistic by Nature)

การเปลี่ยนแปลงที่ได้ผลต้องมาจากบนลงล่างและครอบคลุมทุกมิติ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งได้ แต่ต้องออกแบบ "ทั้งระบบ" (the Whole System) ให้ทำงานสอดประสานกัน ตั้งแต่:

  • วิธีการสร้าง ส่งมอบ และเก็บเกี่ยวคุณค่า 
  • วิธีการทำงานร่วมกันของผู้คน กระบวนการ และแพลตฟอร์ม 
  • โครงสร้างทีมและวิธีการตัดสินใจ 
  • วิธีการวัดผล ควบคุม และปรับปรุงประสิทธิภาพ เป้าหมายสูงสุดคือการสร้าง "ระบบแห่งความได้เปรียบ (System of Advantage)" ที่คู่แข่งไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ เพราะมันคือการเชื่อมโยงสิ่งที่แตกต่างนับพันอย่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว 

กฎข้อที่ 6: สถาปัตยกรรมอนาคตจากรากฐาน (Architect the Future from the Ground Up)

การสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนเปรียบเสมือนการสร้างตึก ที่ต้องมีครบทั้ง 4 ชั้น จากล่างขึ้นบน:

  1. Engineering (วิศวกรรม): รากฐานทางเทคนิคที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง 
  2. Architecture (สถาปัตยกรรม): ระบบทางเทคนิคและองค์กรที่เอื้อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 
  3. Strategy (กลยุทธ์): แผนการปฏิบัติที่ควบคุมและประสานการเปลี่ยนแปลง 
  4. Vision (วิสัยทัศน์): เป้าหมายและแนวคิดที่สร้างแรงบันดาลใจและกำหนดทิศทาง 

กฎข้อที่ 7: ลงทุนในขีดความสามารถที่เหนือกว่าเทคโนโลยี

ข้อมูลจาก BCG ที่นำเสนอในรูปแบบภูเขาน้ำแข็ง ชี้ให้เห็นความจริงที่น่าตกใจ:

  • บริษัทส่วนใหญ่ทุ่มเทความพยายามไปที่ Technology (60%) และ Data & Algorithm (30%) 
  • แต่สิ่งที่สร้าง Value ได้จริงถึง 70% คือ Operating Model ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่กลับทุ่มเทความพยายามให้ไม่ถึง 10% นี่คือข้อพิสูจน์ว่า เทคโนโลยีอย่างเดียวไม่สามารถส่งมอบคุณค่าได้ แต่เป็นคนและระบบต่างหากที่ทำให้มันเกิดขึ้นจริง การปลดล็อกคุณค่าของ AI Transformation จึงต้องอาศัยองค์ประกอบครบถ้วน ตั้งแต่ Data, Model, Governance, Process, Human in the Loop, และ Leadership 

กฎข้อที่ 8: ยกระดับผู้คน อย่าแค่จัดโครงสร้างใหม่ (Elevate People, Don't Just Reorganize Them)

อนาคตของตลาดแรงงานจะเป็นแบบ "K-Shaped" ซึ่งหมายถึงการแยกตัวที่ชัดเจนระหว่าง:

  • กลุ่มขาขึ้น: คนที่รู้จักและใช้ AI ซึ่งจะมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น 13 เท่า สร้างความไว้วางใจได้ดีขึ้น 9 เท่า และมีเหตุผลเชิงตรรกะดีขึ้น 5 เท่า 
  • กลุ่มขาลง: คนที่ปฏิเสธที่จะเรียนรู้และใช้ AI หน้าที่ของผู้นำจึงไม่ใช่การแทนที่คน แต่คือการ "ยกระดับ" (Elevate) พวกเขาให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง

กฎข้อที่ 9: การทรานส์ฟอร์มคือการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด และต้องอยู่ใน DNA

การเปลี่ยนแปลงคือการเดินทางที่ยาวนานและยากลำบาก ทุกคนในองค์กรจะต้องเผชิญกับ 

"Kübler-Ross Change Curve" ตั้งแต่ช่วง Shock, Denial, Frustration จนกว่าจะไปถึงจุดที่ยอมรับและเกิดการเปลี่ยนแปลงจริง มันเป็นการเดินทางที่มักจะโดดเดี่ยวสำหรับ CEO ดังนั้น การทรานส์ฟอร์มที่แท้จริงจะเกิดขึ้นเมื่อมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ขององค์กรไปแล้ว 

กฎข้อที่ 10: จงก้าวล้ำหน้าอยู่เสมอ (Always Stay One Step Ahead)

คุณกระทิงปิดท้ายด้วยแนวคิดที่ทรงพลังที่สุดว่า 

"ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า Best Practice" มีแต่ "Better Practice" หรือการปฏิบัติที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวัน เพราะการสิ้นสุดของ Transformation หนึ่ง คือการเริ่มต้นของอีกสิ่งหนึ่งเสมอ องค์กรที่กำลังทำ AI Transformation อยู่ในวันนี้ ต้องตระหนักว่านี่เป็นเพียงโดมิโนตัวหนึ่งเท่านั้น ยังมีคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงอีกมากมายรออยู่ 

คุณกระทิงทิ้งท้ายด้วยข้อความปลุกพลังสำหรับผู้นำทุกคนว่า "10 ปีข้างหน้า จะเป็นการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี" และจงจำไว้เสมอว่า:

"What Got You Here, Won't Get You There." (สิ่งที่พาคุณมาถึงจุดนี้ได้ จะไม่สามารถพาคุณไปสู่จุดต่อไปได้)

อนาคตไม่ใช่สิ่งที่เราเดินเข้าไปหา แต่เป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้น และพลังในการสร้างอนาคตที่ดีนั้นอยู่ในปัจจุบัน การเดินทางครั้งนี้คือโอกาสของคุณในการลงมือสร้างปัจจุบันที่ดี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนขององค์กรและตัวคุณเอง

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ถอดรหัส Growth Forum 2025: ทำไม 'จิตวิทยา' และ 'Mindfulness' ถึงสำคัญไม่แพ้ 'กลยุทธ์' ในยุค AI

ถอดรหัส Growth Forum 2025: ทำไม 'จิตวิทยา' และ 'Mindfulness' ถึงสำคัญไม่แพ้ 'กลยุทธ์' ในยุค AI? สรุปประเด็นสำคัญจาก 3 Workshop ผู้นำระดับโลก ทั้งการอ่านใจลูกค้าด้วย GRAMS กลยุทธ์ '...

Responsive image

รู้จักการทำงานแบบ Startup Squads เมื่อองค์กรใหญ่หันมาคิดเล็ก

เรียนรู้กลยุทธ์ Startup Squads ผ่านกรณีศึกษา Snap Inc. เมื่อทีมเล็กอาจกลายเป็นทางรอดของยักษ์ใหญ่...

Responsive image

สรุป 3 วิสัยทัศน์ ‘Trustworthy AI’ โอกาสที่มาพร้อมความรับผิดชอบ เมื่อทุกคนสร้าง AI ได้ด้วยปลายนิ้ว

เจาะลึกเบื้องหลังแนวคิด "Trustworthy AI" จากมุมมองของ AWS, IBM, และ KBTG บนเวที KBTG Techtopia สรุปประเด็นสำคัญด้านศักยภาพ ความเสี่ยง และกรอบการกำกับดูแล Generative AI ที่ทุกองค์กร...