ธุรกิจ Healthcare ปรับตัวอย่างไรในยุค Digital Disruption ดังกรณีศึกษาของกลุ่มรพ.ต่างจังหวัดเครือพริ้นซิเพิล ฯ | Techsauce

ธุรกิจ Healthcare ปรับตัวอย่างไรในยุค Digital Disruption ดังกรณีศึกษาของกลุ่มรพ.ต่างจังหวัดเครือพริ้นซิเพิล ฯ

Healthcare เป็นหนึ่งให้ธุรกิจที่ได้รับผลกระบทจาก Digital Disruption จึงเริ่มปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับคุณภาพบริการให้เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ผู้ใช้บริการพึงพอใจ โดยไม่ต้องจ่ายค่ารักษาแพง ขณะที่รพ.ยังสามารถทำกำไรคือแนวคิดหลักของ สาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ที่พัฒนาระบบ Electronic Medical Record จนทำให้รพ.ปากน้ำโพ ผ่านเกณฑ์ระดับโลกของ HIMSS และยังมุ่งมั่นขยายศักยภาพต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น ๆ ในเครืออีก 8 แห่งภายใน 2 ปีข้างหน้า

 Healthcareสาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการ บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด 

บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยในเครือบมจ. พริ้นซิเพิล แคปิตอล ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักด้านธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน และการบริหารจัดการโรงพยาบาล ที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 9 โรงพยาบาล ได้แก่ รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ รพ.พริ้นซ์ ปากน้ำโพ 1 จังหวัดนครสวรรค์ รพ.พริ้นซ์ ปากน้ำโพ 2 จังหวัดนครสวรรค์ รพ.พริ้นซ์ อุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี รพ.พิษณุเวช จังหวัดพิษณุโลก รพ.พิษณุเวช อุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ รพ.สหเวช จังหวัดพิจิตร รพ.ศิริเวชลำพูน จังหวัดลำพูน และล่าสุดคือ รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษ จังหวัดศรีษะเกษ

ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายที่จะเปิดกิจการโรงพยาบาลให้กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค ซึ่งจะมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 20 โรงพยาบาล ภายในปี 2566 ด้วย 2 แนวทางคือสร้างโรงพยาบาลขึ้นเองใหม่ ที่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1 ปีเศษจึงจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้บริการ ส่วนอีกแนวทางคือไปร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลที่ก่อตั้งอยู่แล้วและไปพัฒนาต่อ ทั้งติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติมและปรับปรุงในภาพรวมใหม่ 

“เราตั้งเป้าการเติบโตประมาณ 15% ต่อปี และคาดว่าจะรักษาอัตรา net profit ที่ 5-6%” 

สำหรับจุดเริ่มต้นของภารกิจที่สาธิตได้รับมอบหมายให้ไปสร้างโรงพยาบาลแห่งแรกที่เมืองพัทยา (ปัจจุบันคือโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา) ตั้งแต่เมื่อปี 2557 นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการสานต่อความฝันที่ต้องการสร้างโรงพยาบาลในต่างจังหวัดของบิดาคือ นพ.พงษ์ศักดิ์ วิทยากร (หนึ่งในผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลกรุงเทพและปัจจุบันเป็นประธานกรรมกรรมบมจ. พริ้นซิเพิล แคปิตอล ตลอดจนล่าสุดได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 38 ของ การจัดอันดับ 50 อภิมหาเศษฐีไทย ประจำปี 2562 โดย FORBES) แม้ว่าสาธิตจะร่ำเรียนมาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ (สาขาเครื่องกล) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ตาม 

ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามปณิธานที่นพ.พงษ์ศักดิ์ยึดถือคือ ต้องการสร้างโรงพยาบาลเพื่อให้คนที่มีรายได้ปานกลาง (รายได้ราว 9,000 บาท/เดือนตามนิยามที่โรงพยาบาลกำหนด) สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ เพราะค่าใช้จ่ายไม่แพง โดยมุ่งจัดตั้งในจังหวัดที่การแพทย์ยังเข้าถึงได้น้อยหรือไม่มีเลย ซึ่งเมื่อลูกค้าเข้าไปใช้บริการแล้วต้องสัมผัสถึงความผ่อนคลาย สะดวกสบาย ไม่อึดอัด ตลอดจนไม่หรูหราเกินไป 

“หลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือต้องเป็นโรงพยาบาลที่ดี มีคุณภาพและทำกำไรได้” 

สำหรับเหตุผลที่ทำไมต้องเป็นพัทยานั้น สาธิตเล่าต่อว่า ด้วยเพราะบิดามองว่าตัวเขาน่าจะคุ้นเคยกับพื้นที่ดี เนื่องจากมีประสบการณ์เคยทำงานที่โรงกลั่นศรีราชาจังหวัดชลบุรีเมื่อครั้งอยู่ที่ บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) มาก่อน หากจะไปบุกเบิกสร้างโรงพยาบาลก็ไม่น่าจะลำบากเกินไป

โดยภารกิจสร้างโรงพยาบาลครั้งนี้ได้ให้บทเรียนที่ล้ำค่าในหลายแง่มุมแก่สาธิต เพราะตัวเขามีหน้าที่ตั้งแต่ดูแลเรื่องการก่อสร้างจนถึงจัดหาพนักงาน แต่ที่วัดฝีมืออย่างหนักหน่วงคือวิชาวางแผนด้านการเงิน เมื่องบประมาณที่ได้มา 80 ล้านบาทถูกใช้หมดไปจนไม่เพียงพอจ่ายเงินเดือน จึงจำต้องขอกู้จากครอบครัวมาชดเชย 

“หลังจากทำไปได้ประมาณ 2 ปี ก็เริ่มรู้แนวทางว่าส่วนใหญ่จะต้องเน้นเรื่อง teamwork และ finance ซึ่งเมื่อก่อนมีน้อยคนที่จะอยากจะไปทำงานอยู่โรงพยาบาล ถ้าไม่ได้จบหมอ ยกเว้นผม แต่เขา (บิดา) ก็ไม่ได้กดดันให้เราเรียนหมอ”

 Healthcare

Healthcare vs Digital Disruption

แม้ปัจจุบันธุรกิจ Healthcare อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจาก  Digital Disruption แต่ก็จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือก่อนสายเกินไป ซึ่งนอกจากเป็นการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้เพื่อตอบโจทย์ Digital Transformation แล้วยังเป็นการยกระดับมาตรฐานการทำงานของบุคลากรให้มีศักยภาพยิ่งขึ้นด้วย 

ทั้งนี้ด้วยหัวใจสำคัญของธุรกิจโรงพยาบาลคือ การบริการและระบบเวชระเบียนเพราะทะเบียนประวัติคนไข้คือรากฐานสำคัญในการตรวจรักษา จึงเป็นที่มาของการที่เครือโรงพยาบาลพริ้นซิเพิลริเริ่มพัฒนาระบบ Electronic Medical Record (การบันทึกทะเบียนผู้ป่วยแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์) 

สาธิตเล่าว่าโรงพยาบาลเห็นความสำคัญของการพัฒนา Electronic Medical Record ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน ด้วยวิธีการ scan แต่ก็มีจุดบอดตรงที่ไม่สามารถนำข้อมูลจากเวชระเบียนมาใช้วิเคราะห์ได้ จึงหาทางออกใหม่ด้วยการให้แพทย์ป้อนข้อมูลการตรวจรักษาผ่านระบบ Application จากต่างประเทศที่พัฒนาร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทคนไทยแทน 

“ตอนแรกคุณหมอบางท่านจะยังไม่คุ้นชินกับการ key ข้อมูลลงระบบด้วยตัวเอง แต่เราก็ช่วยหาทางออกให้โดยเริ่มจากมีผู้ช่วยก่อน กระทั่งตอนหลังคุณหมอก็เลือกที่จะป้อนข้อมูลด้วยตัวเอง จนเริ่มถนัด และสะดวกกับการใส่ข้อมูลเองมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ใช้เวลาฝึกเพียง 1-2 เดือนคุณหมอก็ใช้งานได้คล่องแล้ว”

หลังจากที่ผ่านการเรียนรู้และปรับปรุงได้ประมาณ 3 ปี เพื่อให้เป็นไปตามตราฐานสากลในที่สุดโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 1 จังหวัดนครสวรรค์ หนึ่งในโรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ เป็นโรงพยาบาลแห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย ตลอดจนเป็นโรงพยาบาลที่สองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ได้รับการรับรองมาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศโรงพยาบาล ขั้นที่ 7 (HIMSS Analytics Stage 7) ซึ่งถือเป็นขั้นสูงสุดของมาตรฐาน EMRAM (Electronic Medical Record Adoption Model) เมื่อเดือนตุลาคม 2562 และตั้งเป้าที่จะพัฒนาให้โรงพยาบาลอื่น ๆ ในเครือสามารถผ่านมาตรฐานดังกล่าวให้ได้ภายใน 2 ปีข้างหน้าด้วย

โดยโรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ 1 ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นโรงพยาบาลขนาด 100 เตียง เปิดให้บริการมาแล้ว 30 ปี เป็นโรงพยาบาลที่ได้นำประโยชน์จากเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการดูแลผู้ป่วยของทางโรงพยาบาลให้เกิดความถูกต้อง แม่นยำ และปลอดภัยสูงสุด มีระบบการตรวจสอบและทวนสอบ เพื่อความมั่นใจ ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้ป่วยอาการหนักหรือการเสียชีวิตจากความผิดพลาดในการรักษาหรือการสั่งยาลงได้

“หลังจากใช้ระบบ Electronic Medical Record แล้วพบว่ามี medical error ประมาณ 60-70 รายการต่อเดือน ต่ำกว่าเดิมที่เคยเกิดขึ้นอย่างมหาศาล”

ทั้งนี้ EMRAM จัดทำโดยองค์กร HIMSS (Healthcare Information and Management Systems Society) ซึ่งเป็นมาตรฐานรับรองระบบการทำงานที่เน้นในเรื่องของการทำให้ผู้รับบริการในโรงพยาบาลมีสุขภาพที่ดีด้วยการใช้ระบบข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีการกำหนดระเบียบวิธีและขั้นตอนในเรื่องการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในโรงพยาบาล เพื่อให้เป็นไปดังมาตรฐานหรือข้อกำหนดที่ทาง HIMSS Analytics กำหนดไว้

สำหรับมาตรฐาน EMRAM นั้นจะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถดูข้อมูลการรักษาจากระบบได้ทุกที่ ทุกเวลา ได้ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ ลดปัญหาด้านเอกสารและการจัดเก็บ ลดความผิดพลาดในการอ่านลายมือแพทย์ มีระบบการแจ้งเตือนแพทย์และพยาบาล เช่น การเตือนเรื่องยาและผลแล็บ 

นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่องของการตัดสินใจการรักษาของแพทย์ เช่น การเตือนว่าผู้ป่วยรายนี้เข้าเงื่อนไขของผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตหรือย้ายลง ICU ของคนไข้ลดลงได้ถึง 3% 

รวมถึงระบบยังช่วยป้องกันการจัดยาผิดได้ถึง 75% เมื่อเทียบกับก่อนใช้ระบบ และยังมีระบบช่วยการให้ยาให้ถูกคน ถูกยา ถูกขนาด และถูกเวลา โดยการสแกน QR Code ที่ข้อมือผู้ป่วยก่อนรับยาเพื่อยืนยันว่ายาที่กำลังจะได้รับเป็นการจ่ายที่ตรงกับระบบการจ่ายยา เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีโปรเจคที่โรงพยาบาลทำร่วมกับบริษัทประกันชีวิตอีกสองแห่ง ซึ่งจะส่งผลให้จากเดิมที่คนไข้ซึ่งเป็นผู้ป่วยในจะออกจากโรงพยาบาลต้องใช้เวลาในการดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่ายถึง 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยในปัจจุบัน จะเวลาเหลือเพียง 15 นาทีเท่านั้น 

“อีกไม่นานคนไข้และคุณหมอจะ discuss กันผ่านมือถือได้ ฉะนั้นการแพทย์ทุกอย่างจะอยู่บนมือถือทั้งหมด ทั้งระบบเวชระเบียน แพทย์ และคนไข้ไปอยู่ในมือถือให้ได้ภายใน 3 ปี”

Healthcareยกระดับงานด้าน HR 

นอกจากพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กรตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน อีกทั้งปรับปรุง Electronic Medical Record ให้เป็นมาตรฐานสากลแล้ว ยังนำนวัตกรรมมาใช้กับการบริหารงานทรัพยากรบุคคล (HR) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการปรับตัวเพื่อรับมือกับ Digital Disruption และสร้างมาตรฐานการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพของเครือโรงพยาบาลพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ โดยนำWorkday solutions ซึ่งเป็นระบบ Human Resource Management ระดับโลก มาพัฒนาระบบ HR ขององค์กร

สาธิตเล่าว่าเริ่มนำระบบ HR ใหม่มาใช้ในองค์กรได้กว่า 1 ปีแล้ว โดยบุคลากรสามารถทำรายการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานด้าน HR แบบออนไลน์ผ่านทาง App ที่ติดตั้งบนโทรศัพท์ เช่น ใช้การ Check-in ผ่านระบบแทนการตอกบัตรเข้างาน การอนุมัติวันลา เป็นต้น

“โรงพยาบาลต้องมีคนทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อใช้ระบบออนไลน์ก็ทำให้การจัดการต่าง ๆ คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ช่วงแรกจะต้องรณรงค์และสอนให้ทุกคนฝึกใช้ ซึ่งบางคนก็อาจะมองว่ายาก แต่ 90% ก็พอใจ ”

สำหรับมุมมองของสาธิตที่มีต่อความตื่นตัวของผู้ประกอบการในธุรกิจ Healthcare ของไทยนั้น เขาได้ทิ้งท้ายว่า “ภาพรวมของโรงพยาบาลในไทย ยังมีความตื่นตัวด้าน Health Tech ค่อนข้างน้อย จึงอยากจะเชิญชวนให้มาทำกันมากขึ้น” 




ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะกลยุทธ์ ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ IKEA ร้านเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่เอาตัวรอดในยุคดิจิทัล

กลยุทธสำคัญอย่าง ‘ปรับแต่ไม่เปลี่ยน’ ที่ทำให้ IKEA สามารถรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของบริษัท ไปพร้อมกับการปรับตัวท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง...

Responsive image

ทำไมนวัตกรรมถึงสำคัญกับองค์กร และสำคัญมากยิ่งขึ้นในยุค AI

ถ้าเราใช้วิธีเก่า ในการแก้ปัญหาใหม่ หรือถ้าเราใช้โมเดลธุรกิจเดิม กับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่ดีนัก และทางออกของปัญหาที่เราอยากชวนทุกคนมารู้...

Responsive image

5 ปัญหาหลักของ HR เมื่อต้องเฟ้นหา Tech Talent ให้ตอบโจทย์องค์กร

5 ปัญหาหลักของ HR เมื่อต้องเฟ้นหา Tech Talent ให้ตอบโจทย์องค์กรยุคใหม่ ด้วย TalentSauce ครอบคลุมทุกความต้องการในการจ้างงาน...