อย่าประชุมจนลืมกินมื้อเที่ยง เสี่ยงเหนื่อยล้าเกินเหตุ ? สำรวจชี้ทำงานจนไม่มีเวลาพักเที่ยง งานที่ได้อาจไม่มีประสิทธิภาพ เพราะพนักงานเหนื่อยล้าเกินไป
สำรวจจาก EzCater ผู้ให้บริการด้านอาหารสำหรับองค์กร พบว่าพนักงานกว่า 20% มีประชุมในช่วงพักเที่ยงมากเกินไปจนไม่สามารถไปพักกลางวันได้ และการประชุมที่ทับซ้อนเวลาพักกลางวันทำให้พนักงานถึง 22% มีเวลาไม่พอสำหรับพักเที่ยง และเลือกที่จะไม่ไปพักแทน
จำนวนพนักงานที่มีงานเฟ้อจนไม่มีเวลาพักเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 14% และดูเหมือนว่าองค์กรยังคงเพิกเฉยต่อปัญหานี้
จากการศึกษาของนิตยสาร Forbes พบว่า พนักงานที่ทำงานโดยไม่ได้หยุดพักจากงานเลย มีแนวโน้มที่สุขภาพจิตจะย่ำแย่ เช่น ความเครียดเรื้อรัง และส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานแย่ลงตามไปด้วย ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พนักงาน Burnout (ภาวะหมดไฟ) และอาจนำไปสู่การลาออกได้
ดังนั้น สิ่งที่องค์กรควรเริ่มลงมือทำก็คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจเมื่อพวกเขาใช้เวลาพัก หมายความว่า ในบางครั้งที่บริษัทมีงานยุ่ง ๆ มาก ๆ การที่พนักงานทุกคนทุ่มเททำงานเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อถึงเวลาพักพนักงานบางส่วนกลับไม่กล้าลุกออกไปกินข้าวกลางวัน เพราะกลัวจะถูกมองว่าทำงานไม่เต็มที่
การสำรวจพบว่า 1 ใน 4 ของพนักงานที่อยู่ใน Gen Z กังวลเป็นอย่างมากว่าจะถูกมองไม่ดี เวลาต้องหยุดทำงานเพื่อออกไปพักกลางวัน
และมี Gen Z กว่า 27% เผยว่าพวกเขาหลีกเลี่ยงการไปพักเที่ยงเพื่อทำงานให้เสร็จโดยเร็วที่สุด มันจึงเป็นอีกประเด็นสำคัญ ที่องค์กรและผู้นำควรเริ่มให้ความสนใจและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้พนักงานของตนเอง
พักกลางวัน คือ ช่วงเวลาที่พนักงานออฟฟิศมีความสุขที่สุด การได้พักและออกจากความเครียดเพียงแค่ 30 นาที ก็สามารถช่วยให้คนเรากลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ ซึ่งสำรวจพบว่า พนักงานถึง 53% รู้สึกว่าพักกลางวันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขามีความสุขมากที่สุด (รองจากเวลาเลิกงาน)
และพนักงานกว่า 78% พบว่าพวกเขาสามารถทำงานได้ดีขึ้น เมื่อมีเวลาได้หยุดพักกลางวัน เพราะพวกเขารู้สึกเหนื่อยน้อยลง และสามารถโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าองค์กรต้องส่งเสริมให้พนักงานได้พักระหว่างวัน “โดยที่ไม่มีการประชุมเข้ามาแทรก” อย่างน้อยได้วันละ 30 นาทีก็ยังดี !
อ้างอิง: cnbc, fastcompany, forbes
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด