เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคาร First Citizens ประกาศผลกำไรไตรมาสแรก ที่มูลค่าถึง9.82 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกจากการเข้าซื้อกิจการธนาคาร Silicon Valley Bank ที่ประสบภาวะล้มละลาย
กำไรของบริษัทพุ่งขึ้นเป็น 9.50 พันล้านดอลลาร์ หรือ 653.64 ดอลลาร์ต่อหุ้น สำหรับช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม จาก 264 ล้านดอลลาร์ หรือ 16.70 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีก่อนหน้า
เงินฝากประจำไตรมาสแรกของผู้ให้กู้ในเมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา อยู่ที่ 140.05 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 57% จากตอนสิ้นปีที่แล้ว
หนึ่งในสามของเงินฝาก มาจากธนาคาร Silicon Valley ซึ่งธนาคาร First Citizens ได้รับการสนับสนุน จากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
ธนาคาร First Citizens กุมชัยชนะเหนือกว่าธนาคารยักษ์ใหญ่อื่นๆ เช่น Wells Fargo , Citigroup , Goldman Sachs และ Morgan Stanley หลังจากประกาศรายงานผลประกอบการราคาหุ้นของ First Citizens เพิ่มขึ้นมากกว่า 9%
ตั้งแต่เริ่มต้นเดือนมกราคม ราคาหุ้นของ First Citizens เพิ่มขึ้นถึง 54% ในขณะที่ PacWest (PACW) และ Western Alliance (WAL) ที่เป็นธนาคารระดับภูมิภาคที่อยู่ภายใต้การตรวจสอบจากนักลงทุน หุ้นลดลงตามลำดับ 74% และ 55% ในช่วงเวลาเดียวกัน
การซื้อขายของ First Citizens ประกาศเมื่อวันที่ 27 มีนาคมรวมไปถึงเงินกู้มูลค่า 69 พันล้านดอลลาร์ และเงินฝากมูลค่า 56 พันล้านดอลลาร์
หน่วยงาน Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) เห็นด้วยกับการแบ่งปันความเสี่ยง จากสินเชื่อในกรณีที่สินทรัพย์เหล่านี้มีหนี้เป็นสูญในอนาคต
การซื้อขายนี้ช่วยเพิ่มเงินฝากของ First Citizens ขึ้นไปถึง 56% สำหรับไตรมาสนี้ และ ยังเพิ่มมูลค่า สินทรัพย์ของธนาคารไปถึง 214 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด