
เคยสงสัยไหมว่าทำไมความทรงจำที่ไม่ดีถึงตามหลอกหลอนเราไม่เลิก? หรือทำไมการบำบัดความกลัวถึงได้ผลดีเยี่ยมในห้องของนักบำบัด แต่กลับจางหายไปเมื่อเราก้าวออกมาสู่โลกแห่งความจริง? วันนี้ ปริศนาที่ซับซ้อนนี้อาจมีคำตอบที่ชัดเจนขึ้น เมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์จากสเปนและเยอรมนีได้ค้นพบกลไกสำคัญในสมองมนุษย์ที่ทำหน้าที่ "ดับ" ความทรงจำแห่งความกลัวได้เป็นครั้งแรก
การค้นพบครั้งนี้ ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารอย่าง Nature Human Behaviour ไม่เพียงแต่ยืนยันทฤษฎีที่มีมานานจากสัตว์ทดลอง แต่ยังเปิดประตูสู่ความหวังครั้งใหม่ในการพัฒนาวิธีการรักษาผู้ป่วยภาวะ Post-traumatic stress disorder (PTSD) และโรควิตกกังวลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
หัวใจของการค้นพบครั้งนี้อยู่ที่ "อะมิกดาลา" (Amygdala) ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการอารมณ์และความกลัวในสมองของเรา ทีมวิจัยได้ทำการทดลองกับผู้ป่วยโรคลมชัก 49 ราย ที่มีขั้วไฟฟ้าฝังอยู่ในสมองเพื่อการรักษาอยู่แล้ว ทำให้พวกเขาสามารถสังเกตการณ์การทำงานของสมองได้อย่างละเอียดอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
ในระหว่างการทดลอง ผู้ป่วยจะได้เห็นภาพธรรมดาๆ เช่น พัดลม หรือเครื่องปิ้งขนมปัง โดยในช่วงแรก บางภาพจะมาพร้อมกับเสียงดังที่ไม่น่าพึงประสงค์ เพื่อสร้าง "ความทรงจำแห่งความกลัว" แบบเชื่อมโยงขึ้นมา จากนั้นในระยะที่สอง ภาพเดิมถูกนำมาแสดงอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีเสียงดัง เพื่อให้สมองเรียนรู้ที่จะ "ดับ" ความทรงจำที่น่ากลัวนั้น
สิ่งที่น่าทึ่งคือ ในช่วงที่สองนี้เองที่นักวิจัยตรวจพบการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของคลื่นสมองชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "คลื่นเธต้า" (Theta oscillations) ในสมองส่วนอะมิกดาลา (Amygdala) คลื่นเธต้านี้เปรียบเสมือน "สัญญาณแห่งความปลอดภัย" ที่สมองส่งออกมาเพื่อบอกว่า "สถานการณ์นี้ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป" นี่คือหลักฐานทางกายภาพชิ้นแรกที่บ่งชี้ถึงกระบวนการดับความกลัวในสมองมนุษย์
อย่างไรก็ตาม การค้นพบไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ทีมวิจัยยังพบความจริงที่สำคัญอีกข้อหนึ่งที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ที่ผู้ป่วยมักจะกลับไปมีอาการกลัวอีกครั้ง (Relapse) หลังออกจากการบำบัด
กลไกที่ค้นพบนี้ชี้ว่า สมองไม่ได้ "ลบ" ความทรงจำแห่งความกลัวเก่าทิ้งไปทั้งหมด แต่เป็นการสร้าง "ความทรงจำแห่งความปลอดภัย" ชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อ "ข่ม" หรือ "ระงับ" ความทรงจำเก่าไว้ แต่ปัญหาคือ ความทรงจำแห่งความปลอดภัยชุดใหม่นี้มีความ "ขึ้นอยู่กับบริบท" (Highly context-dependent)
พูดง่ายๆ ก็คือ ความทรงจำที่ว่า "เครื่องปิ้งขนมปังไม่น่ากลัว" จะถูกผูกติดอยู่กับบริบทของการทดลองในห้องแล็บหรือห้องบำบัดอย่างเหนียวแน่น แต่เมื่อผู้ป่วยกลับไปเจอเครื่องปิ้งขนมปังในบริบทอื่น เช่น ที่บ้านของตัวเอง สมองอาจจะดึงความทรงจำแห่งความกลัวดั้งเดิมกลับมาทำงานได้ง่ายกว่า
Daniel Pacheco-Estefan ผู้เขียนหลักของงานวิจัยนี้อธิบายว่า "การค้นพบนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจว่าทำไมความทรงจำแห่งความกลัวที่ถูกดับไปแล้ว จึงกลับมาอีกครั้งเมื่อผู้ป่วยออกจากบริบทของการบำบัด"
Nikolai Axmacher ผู้ร่วมวิจัยจากเยอรมนีเสริมว่า "สำหรับผู้ป่วยแล้ว สถานการณ์ที่ปลอดภัยอาจถูกมองว่าเป็นเพียงข้อยกเว้นที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นซ้ำ" ซึ่งเป็นเหมือนการต่อสู้กันระหว่างความทรงจำเก่าและความทรงจำใหม่ที่สร้างขึ้นมา
การศึกษานี้นับเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับความทรงจำและความกลัว จากเดิมที่เป็นเพียงทฤษฎีเชิงแนวคิด สู่การมีหลักฐานทางสรีรวิทยาไฟฟ้าที่จับต้องได้ในสมองมนุษย์ ความเข้าใจในกลไกนี้เปิดโอกาสให้นักบำบัดและแพทย์สามารถออกแบบโปรแกรมการรักษาที่ดียิ่งขึ้น เช่น การบำบัดที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้อง แต่มีการนำผู้ป่วยไปเผชิญหน้ากับสิ่งกระตุ้นในบริบทที่หลากหลาย เพื่อสร้างความทรงจำแห่งความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่เพียงแห่งเดียว
แม้หนทางยังอีกยาวไกล แต่การถอดรหัสกลไกพื้นฐานของสมองในการดับความกลัวนี้ คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับผู้คนนับล้านทั่วโลกที่ต้องต่อสู้กับบาดแผลทางใจและความวิตกกังวลในทุกๆ วัน
ที่มา: neurosciencenews
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด