วีดีโอ - Stories - แชท จับตาเทรนด์โซเชียลมีเดียพลิกเกมธุรกิจปี 2020 | Techsauce

วีดีโอ - Stories - แชท จับตาเทรนด์โซเชียลมีเดียพลิกเกมธุรกิจปี 2020

ชายหนุ่มผู้ขายอาหารทะเลผ่านไลฟ์สตรีมมิ่ง ธุรกิจจำหน่ายขนมเทมเป้ที่เปิดช้อปบน Instagram เฉพาะ และแพลตฟอร์มด้านการศึกษาที่ให้บริการการเรียนการสอนออนไลน์ได้ทั้งในและนอกประเทศได้อย่างไม่มีข้อจำกัด นี่คือตัวอย่างของธุรกิจต้นแบบที่แจ้งเกิดจากการใช้นวัตกรรมได้เหนือชั้นอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนปี 2020 ถือเป็นทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่ได้พลิกโฉมการประกอบธุรกิจแบบดั้งเดิมทั่วโลกไปโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่การเริ่มต้นธุรกิจ การตลาด ไปจนถึงการสร้างธุรกิจให้เติบโต ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเด่นชัดในเอเชีย เนื่องจากทุกประเทศล้วนมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้เศรษฐกิจในแถบนี้เติบโตเร็วมากที่สุดอีกภูมิภาคหนึ่งในโลก

จากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก McKinsey มีการคาดการณ์ว่าเอเชียจะเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเกินกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีโลก เนื่องจากทิศทางการค้าการลงทุนข้ามพรมแดนทั่วโลกจะเคลื่อนย้ายมาทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย รายงานนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจอาจเปลี่ยนกระแสโลกาภิวัตน์ไปสู่กระแสภูมิภาคนิยมได้ โดย 60% ของการซื้อขายสินค้าที่ผลิตโดยประเทศในเอเชียนั้นเกิดขึ้นภายในภูมิภาค นอกจากนี้ 71% ของการลงทุนใน Startup ในเอเชียยังถือเป็นการลงทุนระหว่างภูมิภาค ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวเอเชียนั้นนิยมเดินทางท่องเที่ยวในเอเชีย คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 74%

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจระดับมหภาค ความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีต่อประสบการณ์จากแบรนด์และธุรกิจมีการผันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเห็นว่าผู้คนเปิดใจรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ก่อนภาคธุรกิจด้วยซ้ำ ซึ่งพฤติกรรมนี้ส่งผลต่อวิธีการค้นหา การศึกษาข้อมูล และการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในท้ายที่สุดเช่นกัน

เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้บน Facebook ซึ่งทุกๆ วัน มีผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลกปฏิสัมพันธ์กัน รวมถึงค้นพบสินค้าและบริการที่พวกเขาสนใจ

เราเป็นทั้งชุมชนและแพลตฟอร์มแห่งความคิดสร้างสรรค์ ที่ซึ่งแบรนด์สามารถแจ้งเกิด ค้นหาแรงบันดาลใจ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชุมชนของผู้ใช้ Facebook ช่วงต้นปี 2019 เราได้เผยถึง 3 เทรนด์ที่กำลังมาแรงบนแพลตฟอร์มของเรา ไม่ว่าจะเป็นการแชร์คอนเทนต์แบบชั่วคราว คอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอ และการส่งข้อความทางแชท ซึ่งในปี 2020 เทรนด์เหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในเอเชีย สรุปง่ายๆ คือ ในเอเชียเราจะเห็นพฤติกรรมที่มุ่งไปสู่การใช้แพลตฟอร์มผ่านมือถือที่เพิ่มขึ้น มีคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอมากขึ้น มีการใช้ Stories มากขึ้น ไปจนถึงการสนทนาและการทำธุรกิจผ่านการทักแชทที่จะเพิ่มมากขึ้น

เอเชียครองตลาดของผู้ใช้งานมือถือรายใหม่มากที่สุดในโลกซึ่งมีถึง 61% เมื่อเทียบกับโซนยุโรปตะวันออกกลาง-แอฟริกา (25%) และสหรัฐอเมริกา (14%)3 นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้ชมวิดีโอในเอเชียเพิ่มขึ้นอีกด้วย ในปี 2019 กว่า 54% ของผู้ชมวิดีโอสตรีมมิ่งทั่วโลกมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก4Video on Mobile หรือวิดีโอที่รับชมบนมือถือจะมอบประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม และแปรเปลี่ยนไปตามปัจจัยอีกมากมาย จากการศึกษาวิจัยและประสบการณ์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นประสบการณ์การรับชมวิดีโอที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดและมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น โดยแบ่งเป็น 2ประเภทหลัก คือ กลุ่มที่รับชมวิดีโอระหว่างเดินทาง “on-the-go” และ กลุ่มที่ชื่นชอบการดูและตั้งใจเข้ามารับชมวิดีโอ “captivated viewing

ในยุคที่พฤติกรรมการรับชมเปลี่ยนไป กุญแจสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ มากที่สุดก็คือ การค้นหาและใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะด้วยการสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนบนคอมมูนิตี้ออนไลน์ หรือการผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูง ขณะที่ธุรกิจบริการสตรีมมิ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้ชมจะมองหาแบรนด์ที่สื่อสารข้อเสนอต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมากที่สุด รวมไปถึงแบรนด์ที่สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับชมได้ตามความต้องการของแต่ละคน

เรายังคงเห็นแนวโน้มของผู้ใช้งานที่หันมาแชร์ประสบการณ์แบบชั่วคราวกันอย่างรวดเร็ว โดยมียอดผู้ใช้งานฟีเจอร์ Stories มากกว่า 500 ล้านรายต่อวัน ทั้งบน Facebook, Messenger, Instagram และ WhatsApp และยิ่งผู้คนใช้ Stories กันมากยิ่งขึ้นเท่าไร เราก็สามารถเปิดโอกาสให้นักการตลาดใช้ฟีเจอร์ที่คนนิยมใช้กันบ่อยๆ นี้ในการเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นเท่านั้น

การส่งข้อความก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เมื่อต้นปี 2018 เราได้เปิดเผยสถิติว่ามีการส่งข้อความมากกว่า 8 พันล้านข้อความระหว่างผู้คนกับธุรกิจบน Messenger ทุกๆ เดือน และเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น หมื่นล้านข้อความในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้คนคาดหวังที่จะสื่อสารกับธุรกิจในลักษณะเดียวกันกับที่พวกเขาส่งข้อความให้กับเพื่อนๆ เมื่อผู้คนใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความกันมากขึ้น เราสามารถช่วยให้ธุรกิจปรับตัวตามเทรนด์นี้ได้ทันเช่นเดียวกัน ปัจจุบันมีธุรกิจที่ใช้ Messenger เป็นประจำทุกเดือนมากกว่า 40 ล้านราย (เช่น การส่งหรือรับข้อความทาง Messenger) รายงานยังระบุว่า ผู้คนในกลุ่มประเทศซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่ในเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะส่งข้อความหาผู้ประกอบธุรกิจเฉลี่ยมากกว่าทั่วโลก โดย 63% ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียแปซิฟิกได้ส่งข้อความไปให้กับธุรกิจในช่วงวันหยุดปลายปีที่แล้ว ปัจจุบันมีธุรกิจกว่า 5 ล้านรายที่ใช้แอปพลิเคชัน WhatsApp Business ทุกเดือน

ประเด็นย่อยที่น่าสนใจก็คือ ความนิยมส่งข้อความกันมากขึ้นสะท้อนถึงการเติบโตของการซื้อขายสินค้าผ่านการส่งข้อความและแชทออนไลน์อีกด้วย จากรายงานการศึกษาระดับโลกซึ่งจัดทำโดย Boston Consulting Group ร่วมกับ Facebook ใน 9 ประเทศ พบว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นนำเทรนด์การซื้อขายสินค้าผ่านแชทออนไลน์แซงหน้าประเทศอื่นๆ ทั้งในแง่การรับรู้และการใช้แชทออนไลน์เพื่อการซื้อสินค้า จากกลุ่มสำรวจตัวอย่างทั้งหมด 9 ประเทศ พบว่าประเทศไทยมียอดการทำธุรกรรมจากการซื้อขายผ่านแชทออนไลน์มากที่สุดเป็นอันดับแรก (40%) ตามมาด้วยเวียดนาม (36%) รองลงมาได้แก่ อินโดนีเซีย (29%) มาเลเซีย (26%) และฟิลิปปินส์ (23%) ในขณะที่สัดส่วนการซื้อขายผ่านแชทออนไลน์ในประเทศอื่นยังอยู่ในระยะเริ่มต้น อาทิ สหรัฐอเมริกา (5%) เม็กซิโก (6%) อินเดีย (10%) และบราซิล (11%) ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสสำคัญในการเติบโตเช่นกัน

การพัฒนาทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าภูมิทัศน์การค้าจะยังคงเปลี่ยนแปลงต่อไป ตามพฤติกรรมและวิธีที่ผู้คนเลือกจะโต้ตอบกับธุรกิจ ผ่านประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของพวกเขา โดยยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยอิทธิพลของแพลตฟอร์มและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ทำให้วิธีที่ผู้คนค้นพบสินค้าใหม่ในทุกวันนี้กลายเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ผู้คนเชื่อมโยงได้มากขึ้น การสร้างธุรกิจและแบรนด์ให้ปรากฏบนแพลตฟอร์มและค้นหาได้ จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะให้ธุรกิจคว้าชัยชนะในศึกการค้ายุคใหม่ได้สำเร็จ

แล้วธุรกิจจะทำอะไรได้บ้างเพื่อที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการค้าในยุคใหม่นี้ คำตอบของสมการนี้ก็คือ การสร้างความสัมพันธ์

ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนได้ด้วยการออกแบบเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานบนมือถือ แอปพลิเคชัน การตลาด และการสื่อสารแบบเรียลไทม์ เพื่อลดช่องโหว่และสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ประการที่สอง ธุรกิจจะต้องพิจารณาว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทีมทั้งหมดนั้นมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันอย่างไร เพื่อที่จะมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นตามความคาดหวังของลูกค้า ประการที่สาม การสร้างความสัมพันธ์จะต้องอาศัยแนวความคิดเชิงสร้างสรรค์ ยินดีที่จะทดลองปฏิสัมพันธ์และเชื่อมต่อในรูปแบบใหม่ๆ ผ่านเทคโนโลยี AR/VR การทำวิดีโอแนวตั้ง ไปจนถึงการสร้างช่องทางและแพลตฟอร์มขึ้นมาใหม่เพื่อสร้างความโดดเด่นและแตกต่างไปจากธุรกิจอื่น

สุดท้ายแล้ว ธุรกิจควรเลือกวัดผลเฉพาะสิ่งที่สำคัญ แบรนด์ต้องใช้พื้นที่ของตัวเองในการรังสรรค์ไอเดียให้เป็นจริง เพื่อที่จะดึงดูดความสนใจและรักษาความสนใจจากผู้คนให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยการขยายพื้นที่ให้ใหญ่มากขึ้น น่าสนใจมากขึ้น หรือเชื่อมโยงกันได้มากขึ้น ที่สำคัญธุรกิจต้องกำหนดวัตถุประสงค์ได้อย่างถูกต้อง เช่นเดียวกับการวัดผลลัพธ์ ซึ่งจะช่วยในการวางแผนธุรกิจใหม่และสร้างประสบการณ์ที่มอบทางเลือก การตอบโจทย์เฉพาะบุคคล มีการโต้ตอบ และมีความเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ที่มา:

  1. รายงาน Future of Asia โดย McKinsey
  2. ผลประกอบการของ Facebook ในไตรมาสที่ 3 ปี 2019
  3. GSMA Intelligence
  4. eMarketer
  5. https://our.internmc.facebook.com/intern/tasks/?t=43243044
  6. https://messengernews.fb.com/2019/04/30/messenger-at-f8-2019-over-20b-messages-exchanged-between-people-and-businesses-every-month/
  7. https://www.facebook.com/iq/insights-to-go?tags[0]=people-insights&tags[1]=asia-pacific&tags[2]=holiday-season
  8. https://blog.whatsapp.com/10000656/Celebrating-One-Year-of-WhatsApp-Business-with-New-Web-and-Desktop-Features
  9. https://www.facebook.com/business/news/insights/conversational-commerce

บทความพิเศษ:โดย จอห์น แวกเนอร์ ผู้อำนวยการบริหาร Facebook ประเทศไทย

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

'บ้านปู' ประกาศกลยุทธ์ใหม่ Energy Symphonics เตรียมมุ่งสู่ปี 2030 เปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน พร้อมเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย ประกาศกลยุทธ์ใหม่ 'Energy Symphonics' หรือ “เอเนอร์จี ซิมโฟนิกส์” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ปี 2030 เน้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานอ...

Responsive image

Google เผยเศรษฐกิจดิจิทัลไทย โตอันดับ 2 ใน SEA มูลค่า 1.61 ล้านล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยอีคอมเมิร์ซและการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าในปี 2567 มูลค่ารวมของสินค้าดิจิทัลหรือ GMV จะเพิ่มขึ้นถึง 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566...

Responsive image

AMD ประกาศลดพนักงาน ราว 1,000 คนทั่วโลก หวังเร่งเครื่องสู่ตลาดชิป AI

AMD ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยจะปลดพนักงานประมาณ 1,000 คน หรือคิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด 26,000 คนตามข้อมูลที่บริษัทยื่นต่อสำนักง...