3เอ็ม เปิดตัว 3M Futures แพลตฟอร์มใหม่ที่จะใช้นำเสนอ 5 เทรนด์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อโลกปัจจุบันและโลกในอนาคต พร้อมความเห็นและมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับแนวหน้าของแต่ละวงการในหลากหลายสาขา ตั้งแต่ นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และนักออกแบบของ 3เอ็ม
นอกจากนี้ 3M Futures จะนำเสนอข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงการรับรู้เทรนด์ในด้านวิทยาศาตร์ เทคโนโลยี และดีไซน์ของผู้คนใน 11 ประเทศทั่วโลกด้วยเทรนด์ของ 3M Futures ในปี 2565 ได้แก่
“ทุกวันนี้ ทีมงานของ 3เอ็ม ทั่วโลกต่างช่วยกันศึกษา วิจัย สำรวจ เพื่อไขกุญแจของความเป็นไปได้ในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต” เควิน กิลโบ หัวหน้าฝ่ายออกแบบสำหรับสากลของ 3เอ็ม กล่าว “3M Futures คือโอกาสดีที่เราจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า 3เอ็ม กำลังช่วยปรับรูปแบบอนาคตของโลกโดยรวมอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา ออกแบบ และจัดการวางแผนเพื่อหาคำตอบที่ล้ำสมัย ผ่านเทรนด์สำคัญที่สุดของโลก พร้อมกับการทำงานร่วมกับบุคลากรที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในองค์กร” โดย ผู้เชี่ยวชาญ3M ที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการนี้ทั้งนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักออกแบบ รวมถึงผู้นำระดับแนวหน้าของสาขาต่างๆ ตั้งแต่ด้านปัญญาประดิษฐ์ไปจนถึงความเท่าเทียม ทุกคนต่างระดมกำลังที่จะหาทางนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในวงกว้าง และเกิดประโยชน์สูงสุด
แบบสำรวจ 3M Futures ได้สำรวจกลุ่มคนใน 11 ประเทศ ได้แก่ บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ โดยทำการสำรวจบุคคลจำนวน 22,001 ราย ซึ่งมีอายุระหว่าง 18-64 ปี ระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2564 ทุกคนตอบแบบสอบถามทางออนไลน์ โดยแบบสำรวจมีความหลากหลายของการเลือกทั้งด้านวัย เพศ รายได้ และภูมิภาคที่อาศัย และผลการสำรวจมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากรที่ศึกษาอยู่ที่ +/- 1% ภายใต้การดูแลของ Morning Consult บริษัทวิเคราะห์และประมวลข้อมูลทางธุรกิจของโลก ผลการสำรวจช่วยให้เราเข้าใจมุมมองของผู้คนเกี่ยวกับทิศทางของนวัตกรรมในอนาคตมุ่งเน้น และ ปฏิสัมพันธ์โดยตรงของพวกเขากับเทคโนโลยีที่กล่าวถึงใน 5 เทรนด์หลักได้มากขึ้น
ผลการสำรวจที่สำคัญได้แก่
กลุ่มสำรวจมองว่า การสาธารณสุข วิกฤตหรือภัยพิบัติของมนุษยชาติ วิกฤตด้านสภาวะอากาศที่แปรปรวนแบบสุดขั้ว หนทางรักษาโรคอัลไซเมอร์ และภัยพิบัติทางนิเวศ เป็นปัญหาสำคัญอันดับต้นๆ ที่ต้องแก้ไขในรอบ 5 ปีข้างหน้า
ผู้คนคาดกันว่าโลกเสมือนจะกลายเป็นวิถีปกติในชีวิตประจำวันของเราเร็วกว่าวิทยาการอื่นๆ โดยเฉพาะในวงการเกมและวงการบันเทิง
ผู้คนตื่นเต้นกับปัญญาประดิษฐ์ แต่หลายคนก็กังวลกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และต้องการให้การนำเทคโนโลยีมาใช้กับสังคมมีความโปร่งใสมากขึ้น
ผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าพลาสติกใช้แล้วทิ้งเป็นภัยคุกคามสิ่งแวดล้อมยิ่งกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลและการผลิตเสื้อผ้าตามกระแสนิยม หรือ Fast Fashion
นวัตกรรมด้านไฮเทคกำลังเผชิญกับการต่อต้านในช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาดใหญ่ เนื่องจากหลายคนพยายามลดการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันลง และมองหางานอดิเรกอื่น รวมทั้งการเข้าสังคมจริงๆ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด