Banpu Power Public Company Limited ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ เผยผลการดำเนินธุรกิจไตรมาส 3 ปี 2566 โดยมีรายได้จากการขายรวม 1,468 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 51,638 ล้านบาท) มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 462 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16,247 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิ 59 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,084 ล้านบาท)
บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน โดยเฉพาะการรับรู้รายได้ของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II ซึ่งเข้าลงทุนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งยังมีความคืบหน้าของโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) Barnett Zero ในสหรัฐฯ ที่เริ่มดักจับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อกักเก็บลงชั้นใต้ดินอย่างถาวรเป็นครั้งแรก นับเป็นก้าวย่างสำคัญเพื่อส่งมอบก๊าซธรรมชาติที่ยั่งยืนต่อโลก ในขณะเดียวกันก็เร่งขยายการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเข้าลงทุนในบริษัท เอส โวลต์ เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (SVOLT Thailand) เพื่อต่อยอดห่วงโซ่ธุรกิจกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) นอกจากนี้ การลงทุนในธุรกิจ New S-Curve ผ่านหน่วยงาน Corporate Venture Capital ยังเสริมแกร่งให้กับธุรกิจในระบบนิเวศของบ้านปู
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2566 สามารถสร้างกระแสเงินสดที่ดีและมั่นคงต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายการลงทุนที่โดดเด่นของธุรกิจไฟฟ้าในสหรัฐฯ รวมถึงธุรกิจกักเก็บพลังงาน อีกทั้งยังมีความคืบหน้าล่าสุดของโครงการ Barnett Zero ในสหรัฐฯ ที่เริ่มกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเร่งสร้างการเติบโตของพอร์ตธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener & Smarter บริษัทฯ จึงเดินหน้าสร้างการลงทุนใหม่ ๆ ในธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง (New S-Curve) ผ่านหน่วยงาน Corporate Venture Capital* โดยการลงทุนจะมุ่งเน้นการผสานพลังเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศทางธุรกิจของบ้านปู (Banpu Ecosystem)”
“ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและการเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสที่จะสร้างการเติบโตใหม่ ๆ ของบ้านปู ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศที่ครบวงจรของเรา รวมทั้งการผสานพลังกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ บ้านปูได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings” ในระดับ AAA ประจำปี 2566 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี หรือ ESG โดยมีปลายทางคือการส่งมอบพลังงานที่ยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น และสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย” นางสมฤดี กล่าวปิดท้าย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด