Booking.com เผย ภาวะโลกร้อนกระตุ้น คนไทยเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้น ในปี 2565 และ อนาคต | Techsauce

Booking.com เผย ภาวะโลกร้อนกระตุ้น คนไทยเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้น ในปี 2565 และ อนาคต

รายงานการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี 2565 ของ Booking.com ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากความคิดเห็นของผู้เดินทางกว่า 30,000 คนใน 32 ประเทศ เผยให้เห็นว่าเมื่อต้องพิจารณาถึงการออกเดินทาง ผู้เดินทางยังคงให้ความสำคัญกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากทริปของพวกเขามาเป็นอันดับแรก 

รายงานการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี 2565 ของ Booking.com ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากความคิดเห็นของผู้เดินทางกว่า 30,000 คนใน 32 ประเทศ เผยให้เห็นว่าเมื่อต้องพิจารณาถึงการออกเดินทาง ผู้เดินทางยังคงให้ความสำคัญกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากทริปของพวกเขา

โดย 71% ของผู้เดินทางชาวไทยระบุว่า ต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งจำนวนของผู้ที่ต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนในปีนี้มีเพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับข้อมูลการสำรวจในปี 2564 ที่ผ่านมา นอกจากนั้น 94% ของผู้เดินทางชาวไทยยืนยันว่าการเดินทางอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขา โดย 75% ระบุว่าข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น ส่งผลให้พวกเขาตัดสินใจเลือกตัวเลือกด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้เอง 67% ของผู้เดินทางกล่าวว่า ความพยายามของผู้ให้บริการที่พักและบริการด้านการเดินทางในการปฏิบัติตามแนวทางเพื่อความยั่งยืนนั้น มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจเลือกที่พักและตัวเลือกด้านการเดินทางแบบต่างๆ ของพวกเขา ซึ่งผลจากรายงานยังพบว่า 90% ของนักท่องเที่ยวชาวไทยมีแนวโน้มที่จะเลือกที่พักแบบยั่งยืนมากกว่าที่พักรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าพวกเขาจะตั้งใจเลือกที่พักเหล่านั้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการจองหรือไม่ก็ตาม

มองหาที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้น

ในปัจจุบันผู้คนเริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของที่พักรักษ์โลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย 64% ของผู้เดินทางชาวไทยยืนยันว่า เคยเห็นที่พักรักษ์โลก หรือที่พักที่มีแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนบนเว็บไซต์ออนไลน์ด้านการเดินทางในช่วงปีที่ผ่านมา และ 73% ระบุว่าตนตั้งใจมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการด้านความยั่งยืนของที่พักแต่ละแห่งก่อนที่จะทำการจอง ข้อมูลจากรายงานยังเผยให้เห็นถึงอนาคตอันสดใสของการเดินทางแบบยั่งยืน โดย 72% ของผู้เดินทางกล่าวว่า พวกเขาเคยเข้าพักในที่พักรักษ์โลกหรือที่พักที่มีแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนจริงๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยผู้เดินทางที่ได้สัมผัสประสบการณ์เข้าพักในที่พักรักษ์โลกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมามีเหตุผลในการเลือกเข้าพักที่แตกต่างกันออกไปดังนี้:

•    44% กล่าวว่าตนเลือกที่พักแบบรักษ์โลกเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

•    40% ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับความเป็นท้องถิ่นมากขึ้น 

•    38% เชื่อว่าที่พักแบบรักษ์โลกมีแนวทางปฏิบัติต่อชุมชนโดยรอบดีกว่า

แม้ว่า 95% ของผู้เดินทางชาวไทยตั้งใจว่าจะเข้าพักในที่พักแบบยั่งยืนอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงปีนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในแวดวงการท่องเที่ยวต้องดำเนินการเพื่อให้ทุกคนสามารถค้นหาตัวเลือกที่พักแบบยั่งยืนยิ่งขึ้นได้ง่ายดายมากขึ้น เพราะ 26% ของผู้ที่ไม่ได้เข้าพักในที่พักรักษ์โลกในช่วงปีที่ผ่านมา กล่าวว่าตนไม่รู้ว่ามีที่พักแบบนี้อยู่ และอีก 25% ของผู้เดินทางยอมรับว่าตนไม่ได้ตั้งใจมองหาข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางด้านความยั่งยืนของที่พักเหล่านั้นก่อนทำการจอง แต่หากข้อมูลดังกล่าวเข้าถึงได้ง่าย พวกเขาก็จะตรวจสอบ 

เลือกไปเมืองรองและเดินทางนอกฤดูท่องเที่ยว

ผู้เดินทางต่างเห็นพ้องกันว่าต้องการหลีกเลี่ยงจุดหมายปลายทางที่มีความพลุกพล่าน และมีผู้คนไปเยือนมากเกินไป โดย 37% ของผู้เดินทางชาวไทยระบุว่า พวกเขาเลือกที่จะเดินทางนอกช่วงฤดูท่องเที่ยว และอีก 35% เลือกที่จะไปยังจุดหมายที่ผู้คนนิยมไปท่องเที่ยวน้อยกว่า หรือเมืองรอง ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานักท่องเที่ยวล้น และเมื่อวางแผนถึงทริปเดินทางที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผู้เดินทางชาวไทยมีเหตุผลในการเลือกที่พักที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

•    46% กล่าวว่าตนเต็มใจที่จะเดินทางเฉพาะนอกช่วงฤดูท่องเที่ยวเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานักท่องเที่ยวล้น 

•    84% เผยว่าตนจะหลีกเลี่ยงจุดหมายและแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เพื่อทำให้แน่ใจว่าผลกระทบและประโยชน์ที่เกิดจากการไปเยือนเมืองรองของตนนั้นกระจายตัวกันอย่างเท่าเทียมยิ่งขึ้น 

•    42% เต็มใจอย่างมากที่จะเลือกไปเมืองรอง หรือทางเลือกอื่นๆ แทนจุดหมายที่ตนอยากไปมากกว่า เพื่อช่วยลดปัญหานักท่องเที่ยวล้น

เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและชุมชนท้องถิ่น

ความต้องการในการช่วยฟื้นฟูสังคมและสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจโดย 79% ของผู้เดินทางชาวไทยกล่าวว่าต้องการทำให้จุดหมายปลายทางที่พวกเขาไปเยือนนั้นดีขึ้นกว่าที่เคย และอีก 79% ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่สามารถเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง 

นอกจากนั้น 37% ของผู้เดินทางระบุว่า พวกเขาตั้งใจศึกษาค่านิยมและประเพณีท้องถิ่นของจุดหมายที่จะเดินทางไปล่วงหน้า ส่วนอีก 38% ของผู้เดินทางเต็มใจที่จะจ่ายเงินจำนวนมากขึ้นให้กับกิจกรรมในทริปการเดินทาง เพื่อทำให้แน่ใจว่าตนสามารถช่วยกระจายรายได้ไปยังชุมชนท้องถิ่น 

ก้าวสู่จุดเปลี่ยนของรูปแบบการเดินทาง

ผู้เดินทางทั่วโลกต่างหันมาใส่ใจเรื่องระยะทางของจุดหมายที่จะเดินทางไป วิธีที่จะเดินทางไปยังจุดหมาย และรูปแบบการเดินทางที่จะใช้เพื่อท่องเที่ยวในจุดหมายนั้นๆ มากขึ้น โดยผู้เดินทางชาวไทยก็ให้ความสำคัญกับรูปแบบการเดินทางที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน โดยข้อพิจารณาของพวกเขามีดังนี้

•    27% เลือกที่จะเดินทางไปยังจุดหมายที่อยู่ใกล้บ้านมากขึ้นเพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 

•    31% ระบุว่าตนสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับระบบขนส่งสาธารณะและ/หรือตัวเลือกในการเช่าจักรยานในจุดหมายที่เลือกเดินทางไป

•    22% เลือกที่จะเดินทางด้วยรถไฟแทนการใช้รถยนต์สำหรับระยะทางที่ไกล

•    54% กล่าวว่าตนรู้สึกไม่ดีที่จะโดยสารเครื่องบินไปยังจุดหมายปลายทาง เพราะผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อม  

เมื่อต้องจองบริการด้านการโดยสารหรือเดินทางของตน 73% ของผู้เดินทางชาวไทย ตั้งใจมองหาข้อมูลด้านความยั่งยืน แม้อีก 24% จะเผยว่าตนไม่ได้ตั้งใจมองหาตัวเลือกการเดินทางที่ยั่งยืนมากกว่า แต่ข้อมูลด้านความยั่งยืนยังคงส่งผลต่อพฤติกรรมการจองและความพึงพอใจของลูกค้า  

เดินหน้าต่อบนเส้นทางสู่การเดินทางที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน  

ในปัจจุบันมีที่พักมากกว่า 100,000 แห่งทั่วโลกได้รับป้ายสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” บน Booking.com เพื่อยืนยันและยกย่องแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักความยั่งยืนของแต่ละที่พัก ซึ่ง Booking.com ได้พัฒนามาตรฐานการรับรองเพิ่มเติมด้วยการเพิ่มจำนวนใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษจากหน่วยงานด้านความยั่งยืนต่างๆ 

โดยที่พักที่เข้าเกณฑ์ของใบรับรองดังกล่าวจะได้รับป้ายสัญลักษณ์ “ที่พักสำหรับเดินทางอย่างยั่งยืน” ไปโดยอัตโนมัติ นอกเหนือจากใบรับรองและป้ายกำกับพิเศษที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการโดย Global Sustainable Tourism Council (GSTC), Green Tourism และ EU Ecolabel แล้ว ขณะนี้ Booking.com ได้รวมการรับรองและป้ายกำกับพิเศษที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการโดย Green Seal, Nordic Swan Ecolabel, Green Hospitality Ecolabel, Ibex Fairstay, Fair Trade Tourism, LEED และ Edge เพิ่มเข้ามาในแพลตฟอร์มอีกด้วย 

คุณมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงของ Booking.com กล่าวว่า “ด้วยวิกฤตด้านปัญหาทรัพยากรธรรมชาติที่ทุกคนต้องเผชิญ และรูปแบบการใช้ชีวิตของเราที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผลักดันให้ Booking.com ทุ่มเทเต็มร้อยเพื่อชักนำให้อุตสาหกรรมการเดินทางพัฒนาไปบนเส้นทางที่มีความรับผิดชอบ และใส่ใจยิ่งขึ้น เพื่ออนาคตของแวดวงการเดินทาง เรามีเป้าหมายที่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นอย่างมากเพื่อทำสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จ แต่เมื่อได้รับความร่วมมือจากคู่ค้าทั่วทั้งแวดวงและด้วยความทุ่มเทของพนักงานผู้มีความริเริ่มของเรา เราจึงสามารถเดินหน้าต่อเพื่อช่วยให้ทุกคนออกไปสำรวจโลกกว้างได้ง่ายดายยิ่งขึ้นในลักษณะที่มีความรับผิดชอบและใส่ใจมากขึ้น”

Booking.com ยังคงดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักความเป็นกลางทางคาร์บอน และได้เปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 100% แบบเต็มรูปแบบในช่วงปลายปี 2564 แผนปฏิบัติการที่เกี่ยวเนื่องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ Booking Holdings เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนจากบริษัทออนไลน์ด้านการเดินทางแห่งใดก็ตาม และทำหน้าที่เป็นกรอบแนวคิดเชิงกลยุทธ์สำหรับความตั้งใจของ Booking Holdings ที่จะทำให้การดำเนินงานและบริการของบริษัท ตลอดการขับเคลื่อนแวดวงการเดินทางนั้นเป็นไปอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น 

โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญในการช่วยให้บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 95% ภายในปี 2573 ทั้งทางตรง จากการทำกิจกรรมต่างๆ (สโคป 1) และทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (สโคป 2) รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากกิจกรรมอื่นๆ (สโคป 3) ลง 50% ภายในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้สำเร็จภายในปี 2583

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ครบรอบ 20 ปีในไทย ย้ำจุดยืนผู้นำ AI-IoT และ “Edge AI” ยกระดับ Smart Manufacturing, Smart City และ ESG สู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชัน AI, IoT และคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง ได้จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ...

Responsive image

ยกระดับบริการลูกค้าด้วย AI BOTNOI Voice บน AWS ช่วยองค์กรไทยสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

AWS ประกาศในวันนี้ว่า BOTNOI สตาร์ทอัพด้าน Generative AI ของไทยที่เชี่ยวชาญในการสร้างผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับการสนทนา ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BOTNOI Voice ขึ้นบนคลาวด์ของ AWS...

Responsive image

ดีอี ผนึก ‘อว.- ศธ.’ ร่วมมือ UNESCO นำเวที UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025

ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพงาน “UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายใต้แนวคิด “Ethical Governance of AI in Motion” ย้ำบทบาทผู้นำจริยธรรม AI ระดั...