Krungthai ชี้ 3 เทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ นำไทยสู่ Medical Hub เต็มรูปแบบ | Techsauce

Krungthai ชี้ 3 เทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ นำไทยสู่ Medical Hub เต็มรูปแบบ

ศูนย์วิจัยธนาคารกรุงไทยชี้ “3 เทรนด์การแพทย์สมัยใหม่” หนุนไทยก้าวเข้าสู่การเป็น Medical Hub เต็มรูปแบบ ทั้งการแพทย์แม่นยำ เวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อม และเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ช่วยสร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมการแพทย์ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย คาดมูลค่าตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยแตะระดับ 5  แสนล้านบาทในปี 2568  หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.7% เป็นโอกาสการเติบโตของกลุ่มผู้ให้บริการทางการแพทย์ และกลุ่มธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง 

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางวิกฤติการระบาดของ Covid-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ไทยได้แสดงให้นานาชาติเห็นถึงศักยภาพด้านการแพทย์ ตอกย้ำความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มการจ้างงานและดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศแล้ว ยังส่งผลบวกเชื่อมโยงไปยังหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้อีกมาก โดยองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเป็น Medical Hub ของไทย คือ 1. ศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ (Medical Service Hub) 2. ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) 3. ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ (Product Hub) และ 4. ศูนย์กลางบริการวิชาการและงานวิจัย (Academic Hub)

“เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า บริการทางการแพทย์ของไทย มีความพร้อมที่จะช่วยส่งเสริมการเป็น Medical Hub สะท้อนจากความมีชื่อเสียงด้านคุณภาพการรักษาจนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ซึ่งหากผนวกเข้ากับเทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ จะยิ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นด้านคุณภาพการรักษาของไทยให้ทัดเทียมกับประเทศที่มีวิทยาการด้านการแพทย์ชั้นนำอย่างสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป”

น.ส. สุจิตรา อันโน นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า เทรนด์การแพทย์สมัยใหม่ที่จะส่งเสริมให้ไทยเข้าใกล้ความฝันการเป็น Medical Hub ประกอบด้วย 

1. การแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) หรือการแพทย์เฉพาะเจาะจง เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สามารถนำข้อมูลทางพันธุกรรมมาใช้ในการตรวจวินิจฉัย การรักษา การเลือกใช้ยา การทำนายผลการรักษา เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยคาดว่าจะมีมูลค่าในตลาดโลกสูงถึง 4.77 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 9.7% 

2. เวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อม (Regenerative Medicine) หรือการแพทย์เชิงฟื้นฟู เป็นการแพทย์สมัยใหม่ที่มุ่งเน้นการทดแทน การซ่อมเสริม การฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อ รวมถึงอวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสื่อมถอยจากอายุที่มากขึ้น คาดว่าภายในปี 2564 จะมีมูลค่าในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าจากปี 2562  แตะระดับ 7.68 หมื่นล้านเหรียญฯ  เติบโตเฉลี่ยถึง 19.8% ต่อปี 

3. เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ (Reproductive Medicine) เป็นการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ อาทิ IVF, ICSI, IUI ซึ่งคาดว่าในปี 2568  จะมีมูลค่าตลาดโลกกว่า 2.29 หมื่นล้านเหรียญฯ  คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 9% ต่อปี ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย คือ การทำเด็กหลอดแก้ว โดยไทยมีชื่อเสียงด้านนี้อยู่พอสมควร 

Krungthai COMPASS มองว่าไทยยังมีส่วนแบ่งตลาดในการให้บริการทางการแพทย์ทั้ง 3 ด้านนี้ไม่มากนัก จึงเป็นโอกาสดีที่จะพัฒนาการแพทย์ทั้ง 3 ด้านดังกล่าวให้ทัดเทียมประเทศชั้นนำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพการรักษา และใช้ประโยชน์จากความมีชื่อเสียงและการเป็นประเทศเป้าหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ทั่วโลก ในการดึงดูดเม็ดเงินจากการบริการด้านการแพทย์ให้เข้าสู่ประเทศมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมการแพทย์แล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องอีกด้วย และคาดว่าจะช่วยผลักดันให้มูลค่าตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยแตะระดับ 5 แสนล้านบาทในปี 2568  หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.7%

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ไอคอนสยาม คว้ารางวัล Asia’s Most Innovative Shopping Experience จาก Cathay Members’ Choice Awards 2024 ตอกย้ำโกลบอลเดสติเนชั่นอันดับ 1 ในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา คว้ารางวัล Asia’s Most Innovative Shopping Experience จาก Cathay Members’ Choice Awards 2024...

Responsive image

เปิดตัว Subscription สำหรับ “เหมียวจด” พร้อมอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ รองรับ 16 แอปธนาคาร

KBTG ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีการเงิน เปิดตัวระบบสมาชิก (Subscription) สำหรับ “เหมียวจด” (MeowJot) แอปพลิเคชันจดรายจ่ายอัตโนมัติจากสลิปโอนเงิน พร้อมรองรับสลิปจาก 16 แอปการเงินขอ...

Responsive image

ดีลอยท์ แต่งตั้ง ดร. เมธินี จงสฤษดิ์หวัง เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ มีผล 1 ตุลาคม 2567

กรุงเทพฯ 7 ตุลาคม 2567 – ดีลอยท์ ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง ดร.เมธินี จงสฤษดิ์หวัง ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ต่อจาก นายสุภศักดิ์ กฤษณามระ...