เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด” อย่างเป็นทางการ ตอกย้ำการเป็นธุรกิจที่มากกว่าบริษัทสินเชื่อรถยนต์ พร้อมการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่และธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และเสนอทางเลือกผลิตภัณฑ์การเงินที่ตอบโจทย์ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
นายศุภวุฒิ จีรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเปลี่ยนชื่อจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ประเทศไทย เป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ ประเทศไทย เป็นการปรับเปลี่ยนตอบรับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้เราต้องปรับตัวให้เป็นมากกว่าแค่ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ต้องมีความยืดหยุ่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบัน พร้อมเคียงข้างกลุ่มรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และกลุ่มบริษัทรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในเครือ”
เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการครอบครองรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้ได้ครอบครองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้สะดวกสบายและง่ายขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์นั้นคือ "StarChoice" ที่จะเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ ควบคู่ไปกับใช้บริการออนไลน์ที่ราบรื่น
"StarChoice" เสนออัตราค่าบริการรายเดือนแบบคงที่รวมทุกอย่าง (All-inclusive) ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตลอดระยะเวลาสัญญา 3-5 ปี พร้อมความคุ้มครองสูงสุดตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมค่าบำรุงรักษา ซ่อมแซม ประกันภัย ภาษี และค่าจดทะเบียน อีกทั้งยังมีบริการจัดหารถทดแทนตลอดระยะเวลาสัญญา โดยไม่ต้องจ่ายเงินงวดแรก ทำให้ลูกค้าตัดสินใจครอบครองรถได้ง่ายขึ้น และขับขี่ได้อย่างมั่นใจ โดยเมื่อสิ้นสุดสัญญาสามารถเลือกที่จะคืนรถ หรือเลือกเป็นเจ้าของรถได้เช่นกัน นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบความสะดวกสบายควบคู่ไปกับการบริหารการเงินได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ “StarChoice” บริษัทฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ที่ช่วยลูกค้าบริหารจัดการกระแสเงินสดได้ง่ายขึ้น พร้อมข้อเสนอในการเพิ่มมูลค่ารถยนต์ของลูกค้าด้วยสินเชื่อ รีไฟแนนซ์ ที่สามารถเปลี่ยนรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ของคุณ เป็นวงเงินสูงสุด 4 ล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยและการผ่อนชำระที่คงที่ ตลอดระยะการผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี
ครอบคลุมด้วยความคุ้มครองที่เหนือระดับยิ่งขึ้นของ แผนประกันภัย เมอร์เซเดส-เบนซ์ โพรเทกชั่น เป็นแผนประกันรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มีความคุ้มครองอย่างรอบด้าน ด้วยการซ่อมห้างโดยใช้อะไหล่แท้นานถึง 7 ปี พร้อมบริการรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทดแทนระหว่างซ่อมนานสูงสุดถึง 20 วันต่อปี รับประกันโดย วิริยะประกันภัย และไทยศรีประกันภัย สำหรับปี 2565 นี้ มีการเสริมทัพด้วยบริษัทประกันภัยเพิ่มเติมคือ แอกซ่าประกันภัย และฟอลคอนประกันภัย ให้ลูกค้าได้เลือกรับความคุ้มครองกับบริษัทประกันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และเลือกแผนประกันที่ตรงความต้องการมากที่สุด พร้อมช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์มเฉพาะลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อค้นหาแผนประกันภัยได้ทุกที่ ทุกเวลา
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าใหม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าที่เคยมีประวัติการปิดสัญญากับทางบริษัทฯ โดยมอบโปรโมชั่นลอยัลตี้โปรแกรม ส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุด 200,000 บาท เมื่อเลือกทำสัญญาใหม่กับบริษัท
นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ ยังให้บริการลูกค้าผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มแบบไร้รอยต่อ ให้เกิดประโยชน์และความสะดวกสบายสูงสุดแก่ลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชัน Mercedes me Finance ลูกค้าสามารถเข้าถึงทุกความเคลื่อนไหวของสัญญาทางการเงิน ข้อมูลการทำธุรกรรม ดาวน์โหลดบาร์โค้ดสำหรับการชำระเงิน และแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล
“ตามที่กล่าวมานี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ มุ่งมั่นในการนำเสนอบริการที่ดีที่สุด (Best-in-class mobility service) และพร้อมมอบอิสรภาพสูงสุดในการครอบครองรถยนต์ได้ตามต้องการผ่านประสบการณ์การให้บริการอย่างไร้รอยต่อทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ด้วยบริการที่โดดเด่นทั้งหมดนี้พร้อมกับผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกมากมายที่ตอบสนองความต้องการของใช้รถได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เราประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจด้วยการเป็นผู้นำการบริการสินเชื่อสำหรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์” นายศุภวุฒิ กล่าวเพิ่มเติม
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด