Netflix รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ประจำปีนี้ โดยสร้างสถิติใหม่สำหรับไตรมาสดังกล่าวด้วยยอดสมาชิกที่เพิ่มขึ้นถึง 6.8 ล้านบัญชี สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 12 % จึงทำให้ยอดสมาชิกรวมเพิ่มสูงขึ้นเป็น 158 ล้านคนทั่วโลก ส่วนรายได้ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 31% มาอยู่ที่ 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่กำไรเติบโตขึ้นถึงหนึ่งเท่าตัว อยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ยอดสมาชิกที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ นับเป็นสมาชิกจากนอกสหรัฐอเมริกา ถึง 6.3 ล้านบัญชี สูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 23% ขณะที่การเติบโตของยอดสมาชิกในสหรัฐอเมริกาชะลอตัวลงเล็กน้อย สืบเนื่องจากการปรับอัตราค่าสมาชิกในตลาดดังกล่าว
Netflix ยังคงเดินหน้าพัฒนาด้านออริจินัลคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผลงานเหล่านี้ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับที่ดีมาโดยตลอด เช่นในไตรมาสที่ 3 นี้กับ Stranger Things (สเตรนเจอร์ ธิงส์) ซีซั่นล่าสุด ที่สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดผู้ชมกว่า 64 ล้านบัญชีในช่วงหนึ่งเดือนแรกที่เปิดสตรีม หรือซีรีส์ขนาดสั้น Unbelievable (เสียงแห่งความกล้า) ที่มียอดผู้ชมถึง 32 ล้านบัญชีภายใน 28 วันแรก
นอกจากนี้ ์Netflix ยังได้เปิดตัวออริจินัลคอนเทนต์ในภาษาต่างๆ มากมาย เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในตลาดนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันมีบทบาทขับเคลื่อนการเติบโตของฐานสมาชิก Netflix ถึง 90%
ปัจจุบัน Netflix มีออริจินัลคอนเทนต์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษให้เลือกสตรีมได้กว่า 100 ซีซั่น จาก 17 ประเทศ และยังมีแผนที่จะเปิดตัวเพิ่มอีกถึง 130 ซีซั่นในปี 2020 ควบคู่ไปกับการขยายการลงทุนในคอนเทนต์ภาษาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นในรูปของภาพยนตร์หรือซีรีส์
ในไตรมาส 3 นี้ Netflix ก็ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากสมาชิกในส่วนของออริจินัลคอนเทนต์ในรูปแบบภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็น Secret Obsession (แอบ จ้อง ฆ่า) ที่มียอดผู้ชมสูงถึง 40 ล้านครัวเรือนภายใน 4 สัปดาห์แรก Otherhood (คุณแม่... ลูกไม่ติด) กับยอดผู้ชมกว่า 29 ล้านครัวเรือนในเดือนแรก และ Tall Girl (รักยุ่งของสาวโย่ง) ที่ถูกสตรีมโดยสมาชิกถึง 41 ล้านครัวเรือนภายในเดือนแรกเช่นกัน
ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ์Netflix มีภาพยนตร์คุณภาพมากมาย นำโดย 3 ตัวเต็งรางวัลออสการ์อย่าง The Irishman (คนใหญ่ไอริช) จากผู้กำกับมาร์ติน สกอร์เซซี นำแสดงโดย โรเบิร์ต เดอ นีโร อัล ปาชิโน และ โจ เปสซี, Marriage Story นำแสดงโดย สการ์เล็ต โจแฮนสัน และ อดัม ไดรเวอร์, The Two Popes (สันตะปาปาโลกจารึก) ที่นำแสดงโดยแอนโธนี ฮอปกินส์ และโจนาธาน ไพรซ์ และ The King พร้อมด้วยไฮไลท์อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Dolemite is My Name (โดเลอไมต์ ชื่อนี้ต้องจดจำ), 6 Underground (6 ลับ ดับ โหด), The Laundromat (ซัก หลบ กลบ ฟอก) และภาพยนตร์แอนิเมชั่น อย่าง Klaus (มหัศจรรย์ตำนานคริสต์มาส) และ I Lost My Body (ร่างกายที่หายไป)
Netflix ยังคงมอบความสะดวกสบายและรวดเร็วที่เหนือกว่าสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเป็นสมาชิก โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวแพ็คเกจสมาชิกสำหรับการรับชมบนโทรศัพท์มือถือเท่านั้นในประเทศอินเดีย โดยนับว่าประสบความสำเร็จมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างคอนเทนต์ใหม่สำหรับตลาดอินเดียต่อไปในอนาคต โดยถึงแม้ว่ากลุ่มสมาชิกที่สตรีมผ่านสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียวจะยังมีสัดส่วนที่น้อย แต่ Netflix ก็ยังคงทดสอบการสมัครแพ็คเกจในรูปแบบนี้ต่อไปในอีกหลายตลาด เพื่อที่จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์
ส่วนในด้านภาษาและการเข้าถึงบริการ เราได้เพิ่มทางเลือกให้สมาชิกในประเทศเวียดนาม ฮังการี และเช็ก สามารถใช้งานและรับชมคอนเทนต์จากเน็ตฟลิกซ์ได้ในภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ โดยเรายังมีแผนที่จะรองรับตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมอีกในอนาคต
การร่วมมือกับพันธมิตรยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของ Netflix ในไตรมาสที่ 3 นี้ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอแพ็คเกจร่วมกับ KDDI ในประเทศญี่ปุ่น Sky Italia ในประเทศอิตาลี Canal ในประเทศฝรั่งเศส และ Izzi ในประเทศเม็กซิโก
สำหรับในอนาคต เราคาดการณ์ว่าจะเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้นในไตรมาสหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดบริการด้านความบันเทิงในภาพรวมมีการปรับตัว หันเหจากการชมโทรทัศน์ในรูปแบบเดิมมาใช้งานบริการสตรีมมิ่งกันอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ส่วนเน็ตฟลิกซ์เองจะยังคงตอกย้ำจุดยืนเดิม เสริมสร้างจุดแข็งในด้านการมอบทางเลือกที่หลากหลาย ให้สมาชิกได้ควบคุมประสบการณ์ความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราลงทุนกับออริจินัลคอนเทนต์ในทุกประเภททั่วโลกต่อไป
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด