Ninja Van ผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผยแผนธุรกิจในปี 2564 ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตขึ้นในประเทศไทยอีก 300% ซึ่งเทียบเท่ากับความสำเร็จของปี 2563 ที่ผ่านมา โดยจะมีการเพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นเป็นสองเท่าในปีนี้ รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่งเสริมในด้านบริการต่าง ๆ แก่ผู้ส่งสินค้าและลูกค้า และมีการลงทุนทางด้านโครงสร้างธุรกิจเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม
Ninja Van ได้เผยถึงปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่จะมุ่งเน้นในปี 2564 เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติงานที่ดีเยี่ยม บริษัทได้เปิดตัวเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดที่สามารถมอบความช่วยเหลือและมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แก่ลูกค้าและผู้ใช้บริการ เช่น ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของของผู้คน ซึ่งเจ้าของธุรกิจที่เป็นลูกค้าของ Ninja Van สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังมอบข้อมูลเรื่องสถานะการขนส่งของสินค้า นอกจากนี้ Ninja Van ได้ตัดสินใจย้ายสำนักงานใหม่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ทีมขาย ทีมโลจิสติกส์ และฝ่ายบริการลูกค้าสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มีแผนที่จะสร้างแวร์เฮาส์ใหม่ในไตรมาสที่ 4 โดยในระหว่างนี้ บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นอีก 200%
คุณเพียซ เอิง กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นินจาแวน ประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2563 ถือว่าเป็นอีกปีแห่งความสำเร็จของ Ninja Van เลยก็ว่าได้ ธุรกิจของเราได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น นอกจากนี้ เกิดการค้าขายรูปแบบใหม่ ๆ มากมายเช่นกัน ดังนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีความพร้อมสนับสนุนผู้ใช้บริการของเราให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยให้พวกเขาปรับตัวให้เข้ากับการขายสินค้าออนไลน์ได้อย่างไม่ขัดข้อง การนำเทคโนโลยีมาเพิ่มความคล่องตัวและปรับตัวกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นกุญแจดอกสำคัญที่นำมาสู่การดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปัจจุบัน เรามั่นใจว่าการขยายบริการใหม่ ๆ และการขยายโครงสร้างการดำเนินงานจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2564”
Ninja Van ประเทศไทย ได้เปิดตัว Ninja Insider (นินจา อินไซเดอร์) เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดที่ช่วยปรับปรุงการจัดการโลจิสติกส์สำหรับธุรกิจที่มีการขนส่งมากกว่า 300 รายการต่อเดือน ช่วยให้ลูกค้ามีข้อมูลการดำเนินงานและโลจิสติกส์ที่สมบูรณ์ สามารถการวางแผนกลยุทธ์และขยายธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่มาพัฒนาใช้เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาและติดตามพัสดุได้ง่ายขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น ในปีนี้ Ninja Van จะมีการขยายจุดรับพัสดุเพิ่มขึ้นทั่วประเทศเพื่อให้สะดวกต่อผู้ใช้บริการในต่างจังหวัดและทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งในปัจจุบัน Ninja Van ได้ให้บริการจัดส่งของไปยังทุกจังหวัดในประเทศไทย นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการลงทุนด้านบุคลากร และคาดว่าจะมีการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2564
“แม้ว่าเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตของธุรกิจ แต่การเลือกบุคลากรที่มีศักยภาพในการทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน การมีบุคลากรที่ดีจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ในปีที่ท้าทายนี้ เราได้เห็นถึงความทุ่มเทและพลังจากทีมงานของเรา ตั้งแต่ความพยายามในการทำงานที่มากขึ้นเพื่อส่งของให้ได้มากที่สุดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ไปจนถึงการทุ่มเทเพื่อช่วยเหลือและแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ เราภูมิใจกับทีมงานของเราเป็นอย่างมาก และหวังว่าการขยายทีมของเราจะสามารถนำสิ่งที่ดีมาสู่ประชาชนในประเทศไทยมากขึ้นด้วย” คุณเพียซ กล่าวเสริม
Ninja Van ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในสิงคโปร์โดย The Straits Times และบริษัทวิจัยระดับโลกอย่าง Statista บริษัทโลจิสติกส์ที่นำเทคโนโลยีมาพัฒนาใช้แห่งนี้ได้ก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อปี 2559 และได้เติบโตมาอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี ปัจจุบัน Ninja Van ให้บริการเจ้าของธุรกิจและบริษัทข้ามชาติ (SME และ MNC) ด้านการขนส่งสินค้าทั่วประเทศไทยและมีจำนวนพนักงานกว่า 3,500 คน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด