OCARD Line OA ช่วยหางานแนวคิดใหม่ ในยุค New normal เปิดให้บริการหางานทั่วไปได้ตามที่ตัวเองชอบ และให้ผู้ที่ต้องการหาแรงงานสามารถพบคนอยากทำงานได้ง่ายๆ ภายในไลน์ ชูจุดแข็งสร้างโปรไฟล์ สร้างวีดีโอแนะนำตัว พร้อมบอกสิ่งที่ชอบ เพื่อให้นายจ้าง สามารถคัดคนที่ตรงกับความต้องการทั้งด้านความสามารถและลักษณะเฉพาะตัวได้แม่นยำ และฟังก์ชั่น Match analysis ช่วยวิเคราะห์ความเข้ากันได้ทั้งสองฝั่งก่อนสมัคร
กระแสข่าวการลดพนักงาน การลดเงินเดือน เริ่มเข้ามาอย่างหนาหู ในระยะหลังของช่วงโควิด-19 เป็นสัญญาณที่ส่งให้เราทุกคน ทั้งมนุษย์เงินเดือน หรือพนักงานรับจ้างรายวันต่างวิตกกันไปตามๆกัน ว่า”จะถึงคราวเราหรือไม่” ความแน่นอนที่อาจเคยแน่นอนได้ด้านรายได้ ก็ลดน้อยลงทุกรูปแบบ
ในช่วงเวลานี้ เราก็ได้เห็นบางภาคธุรกิจเติบโต อาทิ ขนส่งของ ส่งอาหาร หรือการรับจ้างทั่วไป ที่ต้องหาคนทดแทนจากการที่คนเก่าเดินทางกลับภูมิลำเนา เป็นต้น หากแต่ถ้าเราไม่ได้เข้าถึงข่าวสาร ไม่ได้เห็นประกาศหางานเช่นนี้ เราก็อาจพลาดโอกาสในการเข้าไปสมัครงานได้ทันท่วงที รู้ตัวอีกที ก็ปิดรับสมัครไปบ้างแล้วก็มี
OCARD หรือ โอการ์ด เป็น Line OA น้องใหม่ที่ถูกร่วมกันพัฒนาขึ้น ในงาน Hack the crisis Thailand ซึ่งเป็นงานแข่งขัน Hackathon ภายในระยะเวลา36 ชั่วโมง ในช่วงโควิด และได้รับเลือกเป็นทีมที่ชนะเลิศจากโครงการ โดย Line OA ดังกล่าวถูกเปิดให้สามารถใช้งานครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2563 และมีการเข้ามาสร้างโปรไฟล์ของผู้หางาน และตำแหน่งงานมาอย่างต่อเนื่อง จากทั่วประเทศ และยังมีชนชาติอื่นๆเข้ามาด้วยเช่นกัน
คุณชวนเฉลิม หัวหน้าทีม OCARD ได้ให้มุมมองในการพัฒนา Line OA นี้ขึ้นมาว่า “ในยามวิกฤติย่อมมีโอกาส ซึ่งโอกาสใหม่ๆที่เกิดขึ้นหลังโควิด ก็มีมากมาย เราได้ตั้งคำถามถึงการทำงานรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับแทรน์ดของ Gig economy หรือการทำงานชั่วคราว ทำงานที่บ้าน หรือการทำงานมากกว่า 1 งาน ว่าจะเป็นกระแสใหม่ของทั้งโลก ที่ปัจจุบันยังไม่มีใครเข้ามาทำ OCARD จึงมองจุดนี้ว่าเป็นโอกาสใหม่ ที่จะได้ทำเพื่อช่วยเหลือทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบตกงานจากวิกฤติโควิด และยังเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ของสหประชาติ ทั้งด้านจัดความยากจน (SDG:1 No poverty) และการจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG8:Decent work and economic growth) อีกด้วย”
ใน Line OCARD ผู้ใช้งานจะสามารถ สร้างโปรไฟล์ ที่เป็นตัวของตัวเอง ใส่วีดีโอสั้นๆ และใส่คำแนะนำตัวเอง รวมถึงบอกสิ่งที่ตัวเองชอบพิเศษได้เช่น ถ่ายรูปเป็น, อารมณ์ดี หรือ เป็นเพศพิเศษ ซึ่งทางทีมงานมองเห็นว่า เป็นจุดแข็งของการที่จะทำให้ ผู้จ้างงานได้เข้าใจเรามากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเรียกมาสัมภาษณ์ และมาดูบุคลิคภาพกันทีหลัง ทำให้การหาคนที่ถูกใจเป็นไปได้เร็วยิ่งขึ้น และค้นหาได้จากความใกล้ตัว อันเป็นส่วนหนึ่งของ Trend การทำงานใหม่ในยุค New normal
และในฝั่งของผู้สร้างการจ้างงาน ก็สามารถใส่ลักษณ์ของงานได้ชัดเจนขึ้น บอกสถานที่ทำงาน เขียนบรรยาย บอกตำแหน่งของงาน สามารถกดเลือกผู้สมัครได้หลายคน และระบบ จะแจ้งเตือนไปยังฝั่งผู้สมัครงานทันที จากนั้นจะสามารถนัดหมายกันได้โดยตรงผ่าน Line OA จึงทำให้นัดพบกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจุดที่ทีมงาน OCARD พยายามสร้างให้เป็นจุดแข็งก็คือการวิเคราห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data analysis) ที่ช่วยแนะนำทั้งสองฝั่ง ถึงความเข้ากันได้จากประวัติ ความใกล้ ไกลของที่ทำงานกับที่บ้าน และความชื่นชอบ ว่าเหมาะกับงานของเราหรือเปล่า ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญที่จะเรียนรู้ และวิเคราห์ความแม่นยำอันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝั่งมากมายในอนาคต
“เราอยากให้โอกาสใหม่ๆเกิดขึ้นกับทั้งผู้ที่หางาน ผู้ที่ต้องการงาน และที่สำคัญกับการเปลี่ยนไปหลังยุคโควิด เพื่อส่งเสริมการยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ เมื่อใครๆก็สามารถหางานที่ใช่ ให้กับตัวเองได้ และหวังว่า จะเกิดการจ้างงานผ่านระบบ ไม่ตำกว่า 100,000 งาน ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเทียบเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 5 พันล้านบาท” นายชวนเฉลิม กล่าวทิ้งท้าย
หากใครกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ทำได้ง่ายแค่ Add line @OCARDTH หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/OCARDTHAILAND ได้เลย
#อย่าปล่อยให้โอกาสลอยไปกับอากาศ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด