ปตท. พัฒนานวัตกรรมเชื้อเพลิงทางเลือก ช่วยลด PM 2.5 ที่เกิดจากน้ำมัน

จากสถานการณ์วิกฤตมลพิษในอากาศ ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง กลุ่ม PTT มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรรมด้านเชื้อเพลิงและพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ ส่งเสริมจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใส่ใจสุขภาพของพนักงานประกาศมาตรการ Work@Home   

คุณวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม PTT กล่าวว่า กลุ่ม PTT มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินตามพันธกิจ การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ควบคู่กับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ PTT ได้ดำเนินงาน ด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง โดยสถาบันนวัตกรรม PTT ได้มีการศึกษาวิจัยเชื้อเพลิงมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซล เนื่องจากไบโอดีเซลผลิตจากน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด เผาไหม้สมบูรณ์  มีกำมะถันและสารอะโรเมติกส์ต่ำ ค่าซีเทนสูง และยังมีออกซิเจนเป็นองค์ประกอบ จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ พบว่า รถกระบะเครื่องยนต์ยูโร 4 ที่ใช้ B10 สามารถช่วยลด PM2.5 ได้ถึงร้อยละ 3.5  เมื่อเทียบกับการใช้ B7  

นอกจากนี้ สถาบันนวัตกรรม ยังได้ร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการทดสอบการใช้ B10 และ B20 เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้งานจริง  สำหรับการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซล ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงโรงกลั่น เพื่อรองรับความต้องการใช้เชื้อเพลิงยูโร 5 คุณภาพสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอนาคต  

นอกเหนือจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงทางเลือกแล้ว กลุ่ม PTT  ได้กำหนดกระบวนการผลิตและกระบวนการปฏิบัติการให้ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น อาทิ การบริหารจัดการรถยนต์ของผู้รับเหมาในโครงการ ให้เพิ่มปริมาณขนส่งต่อเที่ยวรถ ให้มีการตรวจสภาพและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ เป็นต้น  และด้านการดูแลสุขภาพพนักงาน PTT  ได้มีการติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกวัน และส่ง SMS ให้พนักงานได้รับทราบ โดยได้แจกหน้ากาก N95 เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีการประกาศมาตรการ Work@Home อนุญาตให้พนักงานที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ปทุมธานี ชลบุรี กาญจนบุรี นครราชสีมา สระบุรี พระนครศรีอยุธยาฯ และกรุงเทพมหานคร สามารถทำงานที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญปัญหามลภาวะดังกล่าว และร่วมบรรเทาปัญหามลภาวะฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่รอบสถานประกอบการอีกด้วย

สำหรับการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและสร้างการตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม PTT ได้นำองค์ความรู้การปลูกป่า มาเป็นต้นแบบประยุกต์ใช้ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างพื้นที่สีเขียว เกิดใจรักษ์ และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติผ่านแคมเปญ “ปลูกเพื่อเปลี่ยน” พร้อมร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่าย ภายใต้ “โครงการ Green Bangkok 2030”

PTT มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับการบริหารจัดการความยั่งยืน 3 ด้าน (3P) อย่างสมดุล ประกอบด้วย การทำธุรกิจควบคู่กับการดูแลชุมชนและสังคม (People) การอนุรักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Planet) และเป็นฐานความมั่นคงให้แก่ภาคเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน (Prosperity) 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

วัน แบงค็อก ต้อนรับ “อโกด้า” หนึ่งในผู้เช่าสำนักงานรายใหญ่ พร้อมเป็นศูนย์กลางของความคิดสร้างสรรค์และการเชื่อมต่อ

Agoda ประกาศย้ายสำนักงานใหญ่เข้า One Bangkok Tower 5 ดีลเช่าพื้นที่ยักษ์ 26,000 ตร.ม. สร้าง Campus Office แห่งอนาคต รองรับพนักงาน 4,000 คน พร้อมย้าย เม.ย. 2026...

Responsive image

BDI เผยวิสัยทัศน์สถาบันข้อมูลและ AI หนุนรัฐ-เอกชนด้วยเทคโนโลยี ขับเคลื่อนนวัตกรรมอนาคตไทย

สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เผย ทิศทางการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ เดินหน้าแผนงานปี 2569 ผ่านแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลระดับชาติ (D2) และโครงการปัญ...

Responsive image

ปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าจะล้นโลก? Gartner คาดแตะ 116 ล้านคัน จีนครองตลาดเบ็ดเสร็จ 61% และ PHEV โตพุ่ง 32% แซงหน้าตลาดรวม

artner คาดปี 2026 รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกทะลุ 116 ล้านคัน PHEV มาแรงโต 32% รับเทรนด์ผู้บริโภคที่ต้องการความอุ่นใจ จีนครองตลาด 61% แม้ไร้เงินอุดหนุนแต่วงการ EV ยังพุ่งไม่หยุด...