“Social Distancing” เป็นคำที่หลายคนคงคุ้นหูในช่วงภาวะวิกฤติการระบาดของไวรัส COVID - 19 นี้เป็นอย่างดี แปลเป็นภาษาไทยก็คือ “การเว้นระยะห่างทางสังคม” ซึ่งเป็นการเว้นระยะระหว่างบุคคลตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลดการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น งดเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคนหมู่มาก การเว้นหรือหลีกเลี่ยงใช้ขนส่งสาธารณะ ไปจนกระทั่งการทำงานที่บ้าน หรือที่รู้จักกันดีว่า Work From Home รวมไปถึงการเดินทางไปยังสถานที่แออัด หรือสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID - 19 เช่น “โรงพยาบาล” ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย หรือกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังแต่ไม่ติดเชื้อ (NCDs) ที่ต้องมาตามนัดหรือรับยา ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นเพิ่มภาระงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย
เกริ่นมาแบบนี้หลายคนอาจจะเป็นกังวลแล้วว่า Social Distancing จะทำให้การพบแพทย์ช่วงนี้เป็นเรื่องที่ลำบากมากขึ้น ไม่ต้องเครียดหรือตกใจไป เพราะวันนี้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA มีกลุ่มแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีที่ชื่อ Telehealth หรือนวัตกรรมสุขภาพทางไกลจากฝีมือคนไทยมาช่วยให้การพบแพทย์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ขอบอกเลยว่าไม่ว่าวันนี้คุณจะอยู่ที่มุมไหน นวัตกรรมที่เราจะพาไปรู้จักนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้และทำให้การรักษาตัวไม่มีหยุดชะงักอย่างแน่นอน
เครียด COVID - 19 ปรึกษา Ooca x Covid-19 ooca : อูก้าเป็นแอปพลิเคชั่นที่ให้บริการให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิตผ่านวิดีโอคอล โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาที่เชี่ยวชาญตรงกับหัวข้อที่ประสบปัญหา และยังสามารถเลือกนัดหมายในเวลาที่สะดวกหรือพูดคุยปรึกษาได้ทันที โดยอูก้าให้บริการทั้งบุคคลทั่วไป และพนักงานบริษัทในรูปแบบของสวัสดิการพนักงาน ซึ่งปัจจุบัน มีบริษัทที่เป็นลูกค้าองค์กรอยู่ 12 บริษัท และมีพนักงานที่ดูแลรวมกว่า 24,000 คน สำหรับในสภาวะการระบาดของโควิด – 19 นี้ อูก้าได้เปิดให้บริการที่ชื่อว่า ooca x Covid-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีความวิตกกังวลในสถานการณ์ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกักตัว (quarantine) และเกิดภาวะเครียด หรือตื่นตระหนก ซึ่งอูก้าสามารถให้บริการคำปรึกษาที่เกี่ยวกับสภาวะจิตใจ โดยที่ประชาชนไม่ต้องออกจากบริเวณกักตัวได้
ใกล้มือหมอเป็นแอปพลิเคชั่นที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจคัดกรองโรคเบื้องต้น รวมถึงอธิบายรายละเอียดของโรคต่างๆ พร้อคลิปวิดีโอแนะนำการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งยังสามารถบันทึกประวัติอาการเพื่อติดตามผลย้อนหลังได้ ตลอดจนสามารถค้นหาโรงพยาบาลใกล้เคียงได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีทีมแพทย์จิตอาสาเฉพาะทางเข้าร่วมตอบคำถาม ซึ่งช่วยลดภาระงานของแพทย์ในโรงพยาบาล ลดค่าใช้จ่ายจากการรักษาพยาบาล และลดภาระงบประมาณการรักษาพยาบาลของประเทศ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 ประชาชนทั่วสามารถเข้าในแอปฯเพื่อเช็คอาการหากสงสัยว่ามีแนวโน้มติดเชื้อหรือไม่ พร้อมแนวทางการดูแลตัวเอง และรายชื่อโรงพยาบาลที่สามารถทำการตรวจเชื้อ PCR ของ COVID - 19 ได้ทันที
ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันถือเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะรุนแรงหากติดเชื้อ COVID - 19 ซึ่งในช่วงนี้จำเป็นต้องดเว้นจากสถานที่ที่มีความแออัด โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเพื่อหลีกเลี่ยงกับการรับเชื้อไวรัสจากกลุ่มคนต่าง ๆ ที่เข้ามาใช้บริการในสถานที่เดียวกัน Diamate จึงเป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์การดูแลผู้ป่วยเบาหวานที่บ้าน ร่วมกับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยดูแลผู้ป่วยเบาหวานหลังจากรักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วยการใช้แอปพลิเคชันรับคำแนะนำการปฏิบัติตัวจากทีมนักโภชนาการ ซึ่งเป็นทีมเดียวกับแพทย์ผู้ให้การรักษาที่โรงพยาบาลนั้นๆ แอปพลิเคชันจะมีการแนะนำการกินอาหาร รวบรวมสถิติการกินอาหาร และระดับน้ำตาลเพื่อให้แพทย์ได้ทราบ ส่งผลให้การวางแผนการรักษาและการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงมีการเก็บข้อมูลการใช้ยา การให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวในแต่ละวัน นอกจากนี้ระบบยังสามารถเชื่อมต่อกับผู้ป่วยที่มีเครื่องเจาะน้ำตาลปลายนิ้ว ทำให้ช่วยติดตามระดับน้ำตาลของผู้ป่วยได้แบบเรียลไทม์พร้อมแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติได้อย่างทันท่วงที
มีคนไข้จำนวนมากที่ไม่ทราบว่าแพทย์ท่านไหนเชี่ยวชาญเฉพาะโรคที่เป็น จึงทำให้เกิดการสืบค้นข้อมูลตามแหล่งกระทู้ต่างๆ ซึ่งมีทั้งถูกและผิด และบางครั้งคนไข้ก็ไม่ทราบว่าแพทย์เฉพาะทางที่มีคนแนะนำมา ออกตรวจที่โรงพยาบาลไหนใกล้บ้านบ้าง หรือคนไข้บางคนก็อยากตรวจกับแพทย์เฉพาะทางจากโรงเรียนแพทย์หรือโรงพยาบาลรัฐ แต่ไม่สะดวกในการรอคิวตรวจที่ยาวนาน ด้วยปัญหาเหล่านี้จึงทำให้เกิดการพัฒนา Zeekdoc แพลตฟอร์มสำหรับค้นหาบริการ และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ โดยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาแพทย์ และบทความที่เกี่ยวข้องกับสภาพอาการได้ นอกจากนั้นยังสามารถทำการนัดหมายออนไลน์ และติดต่อแพทย์ผ่านทั้งเว็บไซต์ และ mobile application ได้อย่างสะดวก และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ในส่วนของการค้นหาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์นั้นครอบคลุมมากกว่า 40 สาขา อาทิ ทางเดินหายใจและปอด อายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ โลหิตวิทยา หู คอ จมูก เป็นต้น
“YMID Portal” คือแพลตฟอร์มออนไลน์ภายใต้แคมเปญ Thai TeleHealth Fight Covid-19 เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข่าวสารสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “COVID-19” ที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ โดยผ่านการคัดกรองจากหน่วยงานวิจัยและนวัตกรรมของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ฯลฯ รวมถึงแนวทางการดูแลสุขภาพ การใช้ชีวิตประจำวันในช่วงสถานการณ์วิกฤต COVID - 19 และนวัตกรรมฝีมือคนไทยที่เป็นประโยชน์ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.ymid.or.th หรือเฟซบุ๊คเพจ Yothi Medical Innovation District: ย่านนวัตกรรมทางการแพทย์ หรือไลน์แอด @YMID
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้ำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า นอกเหนือจากการพึ่งพาบุคคลสำคัญอย่างบุคลากรการแพทย์แล้ว นวัตกรรมและเทคโนโลยีถือเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ โดยปัจจุบัน NIA ได้ร่วมส่งเสริม สนับสนุนทั้งสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการให้มีการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์กับทางด้านสุขภาพและการแพทย์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนวัตกรรมระบบสุขภาพทางไกล หรือ telehealth ที่เน้นการให้บริการคัดกรอง วินิจฉัยเบื้องต้น และตอบคำถามผ่านระบบตอบการสนทนาอัตโนมัติ (Chat bot) สำหรับประชาชนที่สงสัยกว่าจะติดเชื้อ และยังใช้ระบบการแพทย์ทางไกลสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังแต่ไม่ติดเชื้อ (NCDs) ที่ต้องมาโรงพยาบาลเพื่อตรวจตามนัดหรือรับยา โดยระบบดังกล่าวช่วยรับโทรศัพท์เก็บประวัติและติดตามอาการรองรับได้ประมาณ 1.5 ล้านคนต่อวัน ทั้งนี้ ตั้งเป้าจะช่วยลดจำนวนผู้ที่ต้องมาโรงพยาบาลลงอย่างน้อย 20% หรือ 750,000 ครั้ง (visit) ซึ่งนอกจากจะป้องกันการติดเชื้อแล้ว ยังช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้อีกด้วย
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด