เปิดมุมคิด คน HR กับงาน Thailand HR Tech 2019 เมื่อ AI ไม่ใช่สิ่งวิเศษและไม่ใช่ผู้ร้ายที่เป็นภัยคุกคาม | Techsauce

เปิดมุมคิด คน HR กับงาน Thailand HR Tech 2019 เมื่อ AI ไม่ใช่สิ่งวิเศษและไม่ใช่ผู้ร้ายที่เป็นภัยคุกคาม

ย้อนไปราวปี 1980 เทคโนโลยีเพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์ ได้รับการพัฒนาถึงจุดที่การผลิตพึ่งพาเครื่องจักรกลพอๆกับแรงงานมนุษย์ วงการอุตสาหกรรมทั่วโลก วิตกกังวลต่อการเกิดขึ้นของ “steel-collar workers" ซึ่งหมายถึง แรงงานหุ่นยนต์ (robots) ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และให้คุณภาพคงเส้นคงวา ไม่เท่านั้นแรงงานประเภทนี้ปราศจากชีวิตจิตใจก็ย่อม “ไม่ต้องเอาใจ” และ แน่นอน หุ่นยนต์ “ไม่เคยบ่น” ต่างจากแรงงาน “คน”

สำหรับผู้ประกอบการ การเข้ามาของหุ่นยนต์ ช่วยลดภาระการดูแล “คน” ขององค์กร ไปได้มาก แต่ในอีกมุมหนึ่งสิ่งที่มีแนวโน้มที่จะเป็นภัยคุกคามก็คือ “ภาวะการว่างงาน” โดยเฉพาะที่จะเกิดขึ้นกับแรงงาน ในกลุ่ม “Blue-collar workers" หากแต่ความรุนแรงของภัยคุกคามในห่วงเวลานั้นก็ยังไม่ส่งผลร้ายแรงขนาดที่ว่าคนหายออกไปจากสายการผลิต

ผ่านมากว่า 20 ปี ในช่วงหลังปี 2000 เป็นต้นมา Robots พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วมีรายงานพบว่าในช่วงปี 2000 กว่าครึ่งหนึ่งของแรงงานในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะเริ่มถูกแทนที่ด้วย Robots และคาดการณ์ว่าภายใน 1-2 ทศวรรษ ข้างหน้า Robots อาจแทนที่การทำงานของคนได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อาชีพที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกแทนที่ อาทิ คนขับ Taxi พนักงานส่งของ และจะขยายไปสู่อาชีพพนักงานฝ่ายสนับสนุน และแรงงานในโรงงาน

กลับมาดูที่สถานการณ์ปัจจุบัน หุ่นยนต์ที่ว่าน่ากลัวแล้ว แต่ก็ต้องหลีกทางให้กับเทคโนโลยีปัจจุบันที่เป็นมากกว่าเครื่องจักรกลที่ใช้ทุ่นแรงงานมนุษย์ หากแต่พัฒนาไปถึงขั้นการมีสมองเสมือนกับมนุษย์  แน่นอนเรากำลังพูดถึง เทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์  เมื่อ AI เข้ามาเป็นทั้งโอกาส และ อาจเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัว สิ่งที่เราต้องแสวงหาคำตอบ มี อยู่ 2 ประการหลัก ก็คือ เราจะสามารถใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อสร้างคุณค่าให้กับงานได้อย่างไร และ เมื่อความสามารถของ AI พัฒนาได้เทียบเคียงกับสมองของมนุษย์ และอาจเข้ามาแทนที่การทำงานของมนุษย์ เราต้องปรับตัวอย่างไร

จากคำถามข้างต้น จึงเป็นที่มาให้ สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย หรือ PMAT สมาคมวิชาชีพของนักทรัพยากรมนุษย์แห่งเดียวในประเทศไทย จัดให้มีงาน Thailand HR Tech Conference & Exposition 2019  หรือ งาน HR Tech  โดยจัดขึ้นที่  Royal Paragon Hall ห้างสรรพสินค้า Siam Paragon ระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา นำเสนองานในรูปแบบ Conference และ Interactive Exhibition เต็มรูปแบบ บนพื้นที่ 7,000 ตร.ม. มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 11,000 คน ที่สำคัญ PMAT ร่วมกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศเปิดให้งานนี้เป็นงานฟรี  ผู้เข้าร่วมงานไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆในทุกกิจกรรม

งานนี้จึงเป็น Big Event หนึ่งของคนทำงานด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์ หรือ ฝ่ายงาน HR ที่เราคุ้นเคยกันดี งาน HR Tech เป็นหนึ่งกิจกรรมที่ตอบโจทย์การทำงานของคน HR ในยุคดิจิทัล  จัดต่อเนื่องเป็นปีที่สอง หลังจากการจัดงานในปีแรกได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม  ในปีนี้นำเสนอภายใต้แนวคิด “AI in HR” เจาะประเด็นตรงไปที่เทคโนโลยี AI อย่างตรงเป้า

หากตั้งคำถามว่า ในฐานะของคน HR ต้องปรับมุมมอง ทัศนะ ความคิด การทำงานอย่างไร ในห่วงเวลาที่เราอยู่ใน Disruptive World หรือ โลกที่กำลังปั่นป่วนและกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคนทำงาน โดยที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเป็นทวีคูณต่างเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงในทุกครั้งที่ผ่านมา  แน่นอนว่า HR จะตั้งรับ และ ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงด้วยปฏิกิริยาเท่าเดิมย่อมไม่สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้ และ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นองค์กรหรือธุรกิจอาจจะถูกคลื่นการเปลี่ยนแปลงถาโถมและทำให้องค์กรถูกกลืนหายไป

เทคโนโลยี AI เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำหรับการรับมือกับ Disruptive World เมื่อคนทำงานมีพฤติกรรม ความต้องการแตกต่างไป การสร้างให้เกิด Employee Experience  เป็นสิ่งที่เข้ามาแทนที่การสร้างแรงจูงใจให้คนภักดีกับองค์กรอย่างในอดีตที่ผ่านมา  รวมไปถึงรูปแบบการจ้างงานที่หลากหลาย และยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเกิดขึ้นของ Gig worker  ส่งผลต่อรูปแบบของ Benefit & Compensation ที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่เคยเป็นมา แม้แต่จุดสัมผัสแรกระหว่างคนทำงานกับ HR ยังเปลี่ยนแปลงไป เช่น การสรรหาและคัดเลือกคนเข้ามาร่วมงานก็ไม่อาจใช้เพียงดุลยพินิจโดยปราศจากการประเมินผลอันเป็นวิทยาศาสตร์ได้  รวมไปถึงการใช้ข้อมูลที่มีในการขับเคลื่อนองค์กร ทำให้เกิดศาสตร์ที่เรียกว่า Data Science และ กระบวนการ Data Analysis ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสำหรับคน HR ในยุคดิจิทัล  หากยังคิดว่างาน HR คืองานของคนที่ทำเงินเดือน ตรวจสอบการขาดลามาสาย ให้โบนัส และลงโทษคนทำผิดกฎ ก็ดูจะเป็นการติดอยู่ในมายาคติที่ผิดไปจากความจริง และ อาจถูกเรียกว่า HR หลงยุค

การทำงานด้าน People Management ไม่ใช่ของง่ายในยุคนี้ เมื่อองค์กรมีความคาดหวังต่อบทบาทของ HR มากกว่าการดูแล “คน” ให้ทำงานสนองตอบองค์การ การเข้าร่วมงาน Thailand HR Tech Conference & Exposition 2019 จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้คน HR ได้เปิดโลกสู่การทำงานยุคใหม่ ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม ถึง 7 Zone หลายคนจดจ้องไปที่เวที Conference ที่ผู้จัดยกทัพเชิญทั้งผู้บริหาร องค์กรระดับ Top ทั้งไทยและต่างประเทศมาขึ้นเวทีให้ทัศนะความรู้ และอัพเดทเทรนด์ทั้งเรื่อง People Management และเรื่องเทคโนโลยี  ยังมี HR Practitioner ที่มาบอกเล่าประสบการณ์การฝ่าคลื่น Disruption และ แบ่งบันแนวคิดด้าน HR Solution ของแต่ละองค์กร ในรูปแบบ Showcase ที่น่าสนใจอีกมากมาย  นอกไปจากกิจกรรม เวทีการเสวนาที่มีถึง 3 เวที กิจกรรม Workshop ที่เรียกได้ว่าพิเศษสุดระดับ Exclusive มีให้เลือกถึง 8 Workshop โดย Coach ชั้นนำระดับประเทศ และ ที่มาจากองค์กรระดับโลก อาทิ Workshop ที่สอนการทำ Chatbot หรือจะเป็น เรื่องของ Design Thinking หรือ Gamification ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่น่าสนใจของคน HR ยังมี Workshop ที่เกี่ยวกับ Leadership และ Future Skill เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งคนทำงาน HRM , HRD , OD และ Specialist

อีกหนึ่งความน่าสนใจ คือกิจกรรม ประกวด  HR Tech Pitching Contest ครั้งแรกของประเทศไทย ที่นำ 14 HR Startups มานำเสนอไอเดียการพัฒนาธุรกิจที่เกิดจาก Pain point ของงาน HR ให้กลายมาเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เปลี่ยนโลกการทำงานของ HR และ ปลุกพลังในตัวคน HR ให้คิดได้เรียนรู้การสร้างนวัตกรรมในงาน HR อีกด้วย

โดยภาพรวมของงานนี้ ทำให้คน HR และคนทำงานได้เปิดโลก ได้สัมผัสกับเทคโนโลยี เข้าใจ AI มากขึ้นในฐานะเทคโนโลยีเพื่อการทำงานในโลกยุคใหม่ และแน่นอนจากที่รับฟังวิทยากรและผู้ทรงคุณวุฒิที่มาให้ความรู้ในงาน ก็สรุปได้ว่าลำพังเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใดก็ตาม ทรงประสิทธิภาพและล้ำสมัยเพียงใด  ไม่แม้แต่ AI ที่ฉลาดที่สุดก็ไม่สามารถทำงานโดยลำพังได้ การลงทุนในเทคโนโลยีที่ดีที่สุด แพงที่สุดก็ไม่ได้     การันตีว่าองค์กรจะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด  “คน” ยังมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร และ การเตรียมพร้อมให้คนทำงานร่วมกับ AI ได้นั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนความคิดที่ว่า AI คือภัยคุกคามในการเข้ามาแย่งงานมนุษย์นั้น แน่นอนว่าหากคนทำงานยังคงยึดติดกับทักษะพื้นฐานเดิมๆที่ AI เข้ามาทำแทนได้ และทำได้ดีกว่า    ความจำเป็นที่ต้องมีมนุษย์ในกระบวนการทำงานอาจหมดไป แต่คนมีหน้าที่ในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาสิ่งที่เป็น Future Skill สิ่งที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้ เมื่อ AI เข้ามาทำหน้าที่บางประการให้กับคน HR แล้ว สิ่งที่คน HR ต้องทำคือการให้ความสำคัญกับงานที่สามารถสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้งานด้าน People Management ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Thailand HR Tech Conference & Exposition 2019  ภายใต้แนวคิด AI in HR บอกให้เรารู้ว่า AI ไม่ใช่สิ่งวิเศษและไม่ใช่ผู้ร้ายที่เป็นภัยคุกคามคนทำงาน แต่คุณต้องปรับตัวและเรียนรู้ที่จะมีเพื่อนร่วมงานเป็น AI

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

NIA เปิดเวที AGROWTH เร่งการเติบโตดีพเทคสตาร์ทอัพเกษตร

NIA เดินหน้าสร้างสตาร์ทอัพ สายเกษตรให้เพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเชิงลึก เพื่อเร่งการเติบโตและแก้ไขปัญหาซ้ำซ้อนในภาคเกษตร ที่ต้องการปรับเปลี่ยนการทำเกษตรแบบเดิมไปสู่การพึ่...

Responsive image

ไทยมี ‘ผู้บริหารหญิง’ นั่งบอร์ด แค่ 19% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก-อาเซียน

มีผู้หญิงจำนวนน้อยกว่าหนึ่งในสี่ (ร้อยละ 23.3) ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการทั่วโลก โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 นับตั้งแต่รายงานฉบับล่าสุดที่เผยแพร่ในปี 2565...

Responsive image

EVAT จับมือ กฟผ. และ ม.กรุงเทพธนบุรี จัดแข่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง พร้อมลงนาม MOU พัฒนายานยนต์ไฟฟ้า

สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย จับมือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พร้อมเดินหน้าจัดงานแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต ครั้งที่ 3 พร้อมลงนามบั...