3 สิ่งควรทำหลังเลิกงาน พาชีวิตปัง ใกล้ความสำเร็จ จากผู้เขียน Atomic Habits | Techsauce

3 สิ่งควรทำหลังเลิกงาน พาชีวิตปัง ใกล้ความสำเร็จ จากผู้เขียน Atomic Habits

แค่เปลี่ยนกิจกรรมหลังเลิกงาน อีกตัวช่วยสู่ความสำเร็จ จากการศึกษาของ James Clear ผู้เขียนหนังสือขายดีเรื่อง Atomic Habits พบว่า กิจวัตรที่ทำตั้งแต่เวลา 17.00 - 21.00 น.สามารถส่งผลต่อการทำงานในช่วง 9.00 น. ถึง 17.00 น. ของอีกวัน และจะส่งผลถึงความสำเร็จในชีวิต 

เคยได้ยินไหมว่า “กิจวัตรหลังเลิกงานสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานได้” เพราะทุกอย่างในชีวิตเราเชื่อมโยงกัน เช่น ถ้าตอนกลางคืนเรานอนไม่หลับ วันต่อไปก็ไม่มีแรงไปทำงาน ถ้าสามารถสร้างกิจวัตรหลังเลิกงานที่ดีได้ ก็มีส่วนช่วยให้คุณก้าวเข้าใกล้ความสำเร็จ โดย Clear เสนอ 3 ขั้นตอนปรับกิจวัตรหลังเลิกงานเอาไว้ ดังนี้

ใช้พื้นที่ให้ถูกหน้าที่ของมัน 

ที่นอนก็ต้องเอาไว้นอน ไม่ควรใช้ทำงาน การแบ่งแยกโซนต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่ใช้งานถือเป็นเรื่องที่ Clear ให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากโซนต่าง ๆ ภายในบ้านสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมของคนได้ เช่น ถ้าคุณทำงานบนเตียง สมองก็อาจจะสับสนว่ามันควรจะตื่นตัวหรือผ่อนคลายกันแน่ 

หรือหากคุณอยากสร้างนิสัยตัวเองให้อ่านหนังสือ แต่ทุกครั้งที่ไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวี คุณจะเสียสมาธิและเปลี่ยนไปดูทีวีแทน มันสะท้อนให้เห็นตัวคุณรู้สึกว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ดูทีวี ทำให้ทีวีกลายมาเป็น ‘ตัวการขัดขวางไม่ให้คุณบรรลุเป้าหมาย’

สิ่งเหล่านี้มันเกิดจากการที่สมองจดจำว่าพื้นที่ต่าง ๆ ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร ดังนั้น หากคุณอยากปรับกิจวัตรหลังเลิกงาน ก็ให้สร้างพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมเหล่านั้นโดยเฉพาะ เพื่อให้สมองจดจำและเชื่อมโยงกิจกรรมเข้ากับพื้นที่นั้น ๆ

จำกัดเวลาหน้าจอ

ไถมือถือจนหมดวัน ก็ส่งผลเสียอย่างมากต่อการทำงาน ยิ่งสร้างนิสัยการเลื่อนดูโทรศัพท์พร่ำเพรื่อในชีวิตประจำวัน เวลาทำงานเราก็จะต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูบ่อย ๆ แบบไร้เหตุผล และอาจทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายในแต่ละวัน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กดูทุก ๆ 15 นาที แม้จะไม่มีแจ้งเตือนใด ๆ ก็ตาม 

ดังนั้น การกำหนดเวลาก็อาจช่วยแก้อาการติดโทรศัพท์ได้ เช่น ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น วางโทรศัพท์ให้ห่างจากเตียงตอนนอน หรือนำแอปที่รบกวนสมาธิออกจากหน้าจอหลัก เพราะมันจะเป็นสิ่งแรกที่คุณเห็นหลังปลดล็อกหน้าจอ ขั้นตอนเหล่านี้ช่วยให้คุณใช้เวลากับโทรศัพท์น้อยลง และมีสมาธิกับสิ่งที่คุณต้องทำมากขึ้น

สร้างสมดุลให้ชีวิตด้วย 3 กิจกรรมนี้ 

การกิน การนอน การออกกำลัง 3 ปัจจัยพื้นฐานที่ควรปรับให้สมดุลในกิจวัตรประจำวัน เพราะถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องเริ่มจากปัจจัยพื้นฐาน “นอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ” ก็คงเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนรู้ดีอยู่แล้ว (แต่ไม่ค่อยมีคนทำ !)

Clear จึงแนะนำว่า ถ้าหากอยากเริ่มปรับสมดุลในชีวิตประจำวัน อาจเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เพิ่มผักและผลไม้ทีละนิดในมื้ออาหาร, หาเวลาออกไปเดินเล่นในระยะทางสั้น ๆ หรือค่อย ๆ ปรับเวลานอนให้เร็วขึ้นทีละนิด ซึ่งการทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ สุดท้ายเราจะเริ่มคุ้นชิน จนทำมันเป็นนิสัยได้

อ้างอิง: cnbc

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

วิจัยชี้ ‘Startup’ ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บทความนี้ Techsauce จะพาคุณไปสำรวจว่าอะไรที่ทำให้ วัย 40 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักธุรกิจและ Startup หลายคน...

Responsive image

ทำไม Fastwork ขาดทุนเกือบทุกปี ? ฟังเหตุผลของ CK Cheong

Fastwork เป็นอีกหนึ่งชื่อธุรกิจที่มาแรงในช่วงเวลานี้ ด้วยความไวรัลบนโลกออนไลน์ของผู้บริหาร CK Cheong (ซีเค เจิง) ที่มักทำคลิปให้ทัศนะเรื่องการเงิน การใช้ชีวิต และธุรกิจ แต่กลับถูกต...

Responsive image

Founder Model วิถีผู้นำแบบ Brian Chesky CEO เบื้องหลังความสำเร็จของ Airbnb

Founder Mode เป็นแนวทางการบริหารที่กำลังได้รับความสนใจในวงการสตาร์ทอัพ โดยแนวคิดนี้ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางจาก Brian Chesky, CEO ผู้พา Airbnb เติบโตจนกลายเป็นธุรกิจระดับโลก ด้...