AI เก่งขึ้นทุกวัน แล้ว "คุณค่าเฉพาะตัว" และ “ทางรอด” ของมนุษย์อยู่ที่ไหน? ถอดบทเรียนจาก ‘What Makes Us Valuable?’

ในยุคที่ AI พัฒนาอย่างก้าวกระโดด คำถามที่ดังก้องอยู่ในใจของพวกเราหลายคนคือ "แล้วอะไรคือคุณค่าของมนุษย์?" นี่คือประเด็นสำคัญที่คุณรวิศ หาญอุตสาหะ CEO แห่งศรีจันทร์ และผู้ก่อตั้ง Mission To The Moon Media ได้ชวนทุกคนขบคิดใน Session สุดทรงพลัง "What Makes Us Valuable? ตัวตน คุณค่า และทางรอด" บนเวที Creative Talk Conference 2025

คุณรวิศเริ่มต้นด้วยการพาเราย้อนดูประวัติศาสตร์ของเทคโนโลยี ซึ่งมีหน้าที่ทำให้ของที่เคย "แพง" หรือ "เป็นไปไม่ได้" กลายเป็นสิ่งที่ "ถูก" และ "เข้าถึงได้" เสมอมา แต่ AI แตกต่างออกไป เพราะนี่คือครั้งแรกที่มนุษย์สร้างสิ่งที่ "ฉลาดกว่าเรา"ขึ้นมา การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงท้าทายแก่นแท้ของการทำงานและคุณค่าของมนุษย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

สิงโต หรือ กวาง? เลือกมุมมองของคุณต่อโลกที่กำลังเปลี่ยนไป

คุณรวิศได้นำเสนอภาพเปรียบเทียบที่ทรงพลังและเป็นหัวใจสำคัญของเซสชั่นนี้ นั่นคือมุมมองของ "กวาง" และ "สิงโต" ในทุ่งหญ้าสะวันนา

  • กวาง: ใช้ชีวิตด้วยความเครียดแบบกลัวตาย เมื่อเห็นสิงโต ก็จะวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัวและกังวลว่าจะรอดหรือไม่
  • สิงโต: มองกวางเป็น เป้าหมาย เป็นความท้าทายที่ต้องล่าให้ได้เพื่อความอยู่รอด เป็นความเครียดเชิงรุก

ในยุค AI นี้ คุณรวิศชวนให้เราเปลี่ยนมุมมองจาก "กวาง" ที่ตื่นตระหนกและกลัวว่าจะถูก AI แย่งงาน มาเป็น "สิงโต" ที่มองว่า AI คือความท้าทายและโอกาสที่เราจะใช้ประโยชน์จากมันเพื่อสร้างความสำเร็จ มุมมองที่แตกต่างเพียงเล็กน้อยนี้ สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานของเราไปได้อย่างสิ้นเชิง

เมื่อ AI Agent เข้ามาจัดระเบียบชีวิต

เพื่อฉายภาพให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ใกล้ตัวกว่าที่คิด คุณรวิศได้ยกตัวอย่างเทคโนโลยี AI Agent ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานและชีวิตประจำวันของเรา

  • Google Flow: เครื่องมือสร้างสรรค์สุดล้ำที่สามารถเปลี่ยนข้อความ (Text Prompt) ให้กลายเป็นภาพยนตร์สั้นๆ ได้ในพริบตา 
  • Project Mariner ของ Google: AI Agent จาก Google ที่สามารถรับคำสั่งที่ซับซ้อน เช่น "ช่วยวางแผนทริปและสรุปข้อมูลสำคัญให้หน่อย" จากนั้น AI จะแสดงกระบวนการคิด และทำงานเบื้องหลังให้ทั้งหมด ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา ไปจนถึงการสรุปออกมาเป็นแผนการเดินทางที่พร้อมใช้งาน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่างานที่เคยต้องใช้เวลาและความพยายามมหาศาลของเรากำลังจะถูกทำให้ง่ายขึ้นในพริบตา 
  • Read AI: อีกหนึ่งเครื่องมือที่ถูกยกขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาที่คลาสสิกที่สุดของชาวออฟฟิศ นั่นคือ "การประชุมที่ไร้ประสิทธิภาพ" Read AI ทำหน้าที่เหมือนโค้ชที่คอยสังเกตการณ์ในห้องประชุม โดยมันสามารถวิเคราะห์ได้ว่าใครพูดเยอะที่สุด, ใครไม่มีส่วนร่วม, Engagement ของผู้ฟังเป็นอย่างไร, สายตาของผู้เข้าร่วมประชุมล่องลอยหรือไม่ หรือแม้กระทั่งเสนอแนะว่าการประชุมครั้งนี้จำเป็นต้องมีจริงๆ หรือเปล่า สิ่งนี้จะช่วยลดจำนวนการประชุมที่ไม่จำเป็น และทำให้ทุกการประชุมมีประสิทธิภาพสูงสุด

เครื่องมือเหล่านี้คือสัญญาณที่ชัดเจนว่า AI กำลังจะเข้ามาปลดปล่อยเราจากงานซ้ำซากและงานธุรการ เพื่อให้มนุษย์ได้มีเวลาหันไปโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญกว่า

Gen Z กลัวอะไร? และนิยาม 'ความเก่ง' ที่เปลี่ยนไป

ประเด็นสำคัญที่สุดที่คุณรวิศเจาะลึก คือความเข้าใจต่อคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ที่หลายคนมักติดป้ายว่า "ไม่สู้งาน" หรือ "ไม่มีความอดทน"

คุณรวิศชี้ว่า ความจริงแล้วสิ่งที่ Gen Z กลัว ไม่ใช่แค่การถูก AI แย่งงาน แต่คือคำถามที่ลึกลงไปในตัวตนว่า "แล้วเราจะพิสูจน์ตัวเองได้เหรอ?" หรือ "เราจะเก่งพอเหรอ?" ในโลกที่ทักษะหลายอย่างถูกทดแทนได้ นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ความหมายของ "ความเก่ง" และ "ความอดทน" แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อน

นิยามเดิม: 

  • ความเก่ง = การหมั่นพัฒนาทักษะที่จับต้องได้ 
  • ความอดทน = การอยู่กับสิ่งที่ได้นาน: ความสามารถในการทนกับความยากลำบาก

นิยามใหม่:

  • ความเก่ง = การตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่า "จะมีตัวตนที่ดีกว่านี้ ภูมิใจกว่านี้ ใช้ชีวิตดีกว่านี้ได้อย่างไร?"
  • ความอดทน = ทนในสิ่งที่ใช่ ไม่ใช่การอดทนไปเรื่อยๆ แต่คือการอดทนเพื่อเป้าหมายหรือสิ่งที่พวกเขามองว่ามี "ความหมาย"

ดังนั้น หนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้นำและองค์กรในวันนี้คือ "องค์กรของคุณ เป็นสถานที่ที่ความอดทนของพนักงาน มี 'ความหมาย' แล้วหรือยัง?" คุณรวิศได้ให้แนวทางที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง 3 ข้อคือ:

  • สร้างพื้นที่ปลอดภัยทางความคิด (Psychological Safety): เปิดโอกาสให้พนักงานกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าลองผิดลองถูก โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตัดสินหรือตำหนิ
  • ให้เป้าหมายที่มีความหมายและชัดเจน (Meaningful Goals): เชื่อมโยงให้เห็นว่างานที่ทำในแต่ละวันนั้น มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าขององค์กรอย่างไร ให้คำปรึกษาในเรื่องนี้ได้
  • ให้เดดไลน์ของการอดทนที่อยู่ตรงกลาง (Balanced Deadline): กำหนดกรอบเวลาที่ท้าทาย แต่สมเหตุสมผล ไม่ปล่อยให้พนักงานต้องอดทนอย่างไร้จุดหมาย แต่ก็ไม่กดดันจนเกินไป เปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้ทดลอง เพื่อให้พวกเขารู้ว่าความพยายามที่ทุ่มเทลงไปนั้นมีเส้นชัยรออยู่

ค้นหา Personal Value Proposition: ทางรอดสุดท้ายในยุค AI

เมื่อ "ความเก่ง" ไม่ได้วัดกันที่ Skill อีกต่อไป แล้วเราจะสร้างคุณค่าของตัวเองขึ้นมาได้อย่างไร? คุณรวิศชี้ว่าคำตอบสุดท้ายอยู่ที่การค้นหา "Personal Value Proposition (PVP)" หรือ "คุณค่าเฉพาะตัวที่เราส่งมอบได้"

PVP ไม่ใช่แค่การบอกว่าเราทำอะไรได้ แต่คือการตอบคำถามว่า "ทำไมต้องเป็นคุณ?" มันคือจุดตัดที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่าง สิ่งที่เราทำได้ดี, เราให้ความสำคัญกับอะไร, และ คนอื่นจะได้รัยอะไรจากเรา ซึ่ง AI ไม่สามารถลอกเลียนได้ เพราะมนุษย์มีความฟลากหลายมาก 

คุณรวิศยกตัวอย่างที่น่าสน 2 เรื่อง:

  • นักบัญชีที่สามารถสื่อสารได้: พนักงานบัญชีที่อาจไม่เก่งเทคนิคที่สุด แต่มี PVP ที่แข็งแกร่งในการเป็น "นักสื่อสาร" ที่เชื่อมโยงภาษาบัญชีอันซับซ้อนให้ฝ่าย Business และฝ่ายอื่นๆ เข้าใจได้ง่าย ซึ่งสร้างมูลค่าให้องค์กรมหาศาล
  • Robert Lang นักฟิสิกส์นักพับกระดาษ: นักฟิสิกส์จาก NASA ที่ค้นพบ PVP ของตัวเองว่าคือการเป็น "นักฟิสิกส์ที่พับกระดาษเก่งระดับโลกเพียงคนเดียว" เขาจึงนำความรู้ทั้งสองศาสตร์มาสร้างนวัตกรรมการพับ "ถุงลมนิรภัย" ที่ไม่มีใครทำได้

การค้นหา PVP ของตัวเองจึงเป็นการเดินทางที่ต้องอาศัยความเข้าใจใน สิ่งที่มนุษย์มี แต่ AI ไม่มี นั่นคือ:

  • Creativity (ความคิดสร้างสรรค์)
  • Critical Thinking (การคิดเชิงวิพากษ์)
  • Empathy (ความเห็นอกเห็นใจ)
  • Belief (ความเชื่อ)
  • Uniqueness (ความเป็นเอกลักษณ์)
  • Trust (ความไว้เนื้อเชื่อใจ)

เส้นทางข้างหน้าจึงไม่ใช่การแข่งขันกับ AI ในเกมของมัน แต่คือการกลับมาค้นหาและพัฒนา "จุดตัด" ที่เป็น PVP ของเรา เพื่อสร้างคุณค่าในแบบที่ไม่มีใครหรือเทคโนโลยีใดจะทดแทนได้

ท้ายที่สุดแล้ว แม้ AI จะเก่งกาจเพียงใด แต่ก็ยังขาดสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ นั่นคือ ความเห็นอกเห็นใจ ความไว้ใจ บริบท และการสร้างความรู้สึก "อุ่นใจ" เฉกเช่นที่ผู้โดยสารยังต้องการเห็นนักบินในห้องควบคุม แม้เครื่องบินจะบินด้วยระบบอัตโนมัติได้แล้วก็ตาม

อ้างอิง: สรุปจาก Session: What Makes Us Valuable? ตัวตน คุณค่า และทางรอด ในงาน Creative Talk Conference 2025

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

รู้จักภาวะ Flow เคล็ดลับของคนมีความสุข ลืมเวลา ลืมตัวตน แต่แค่รู้สึกว่ากำลังมีชีวิตอยู่จริงๆ

ค้นพบแนวคิด “Flow” โดย Mihaly Csikszentmihalyi ภาวะลึกทางจิตใจที่ทำให้มนุษย์รู้สึกมีชีวิตอย่างแท้จริง ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงและความสุขที่เงินซื้อไม่ได้เสมอไป...

Responsive image

อัปเดตล่าสุด! เปิดลิสต์ 24 หนังสือเด็ด ส่องเทรนด์โลกอนาคตปี 2025 ผ่าน AI สังคมสูงวัย และนวัตกรรม

อัปเดตลิสต์หนังสือแนะนำปี 2025 จากคณาจารย์ MIT ที่สายเทคและนวัตกรรมต้องอ่าน! ครบทุกประเด็นร้อนตั้งแต่ AI, Deep Tech, สังคมสูงวัย, กลยุทธ์ Startup และอีกมากมาย...

Responsive image

AI ไม่ใช่ศัตรู แต่คือเครื่องมือของคนเก่ง มุมมอง ‘CK Fastwork’ กับอนาคตการทำงานที่เปลี่ยนไป

โลกงานเปลี่ยนไปแล้ว AI แทนคนได้มากขึ้นทุกวัน CK แห่ง Fastwork ชี้ว่า คนที่จะอยู่รอดไม่ใช่คนที่ทำได้หลายอย่าง แต่คือผู้เชี่ยวชาญที่ AI ต้องฟัง...