ทางเลือกของโรงแรมในยามวิกฤติ COVID 19 | Techsauce

ทางเลือกของโรงแรมในยามวิกฤติ COVID 19

ถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน และมีรายงานสรุปประเด็นสำคัญออกมา….

ในรายงานได้มีการสรุปประเด็นสำคัญจากการประชุมซึ่งหนึ่งในหัวข้อที่สำคัญประเด็นหนึ่งคือการปรับลดประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2564 ลงจากมาตรการเปิดประเทศที่ผ่อนคลายช้ากว่าที่คาดการณ์

วันนี้เราลองมาดูประเด็นสำคัญจากกราฟประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติของธนาคารแห่งประเทศไทยในรายละเอียดกันดีกว่าค่ะ

ธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งสมมติฐานการประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยใช้ปัจจัยของช่วงเวลาการกระจายวัคซีน และช่วงเวลาของการเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นตัวแปรที่สำคัญโดยแบ่งช่วงเวลาเป็นรายไตรมาสเริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2562 จนถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2565 รวมระยะเวลา 3 ปี

ผลการประมาณการในแต่ละช่วงมีดังนี้

  • ไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ประเทศไทยเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย Special Tourist Visa (STV) โดยต้องกักตัว 14 วัน ซึ่ง ณ จุดนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเป็นศูนย์ และค่อย ๆ ขยับขึ้นในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2564
  • ไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 เป็นช่วงที่อยู่บนสมมติฐานที่ว่าประเทศที่เรียกได้ว่าเป็น Advance Economies จะได้รับวัคซีนมากกว่า 30% ของประชากร ควบคู่ไปกับมาตรการในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนและการตรวจเชื้อ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นในหลักแสนต้น ๆ เห็นได้จากกราฟคือ 0.2 ล้านคน
  • ไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เป็นช่วงที่อยู่บนสมมติฐานที่ว่าประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทยฉีดวัคซีนมากกว่า 30% และภายใต้มาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนและการตรวจเชื้อยังคงมีอยู่นั้น จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นแตะหลักล้าน อยู่ที่ 1.7 ล้านคน
  • ไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ซึ่งติดดาวสีเหลืองในกราฟเพราะอยู่ภายใต้สมมติฐานว่าประเทศไทยฉีดวัคซีนได้ประมาณ 20% ของประชากร และยังคงดำเนินมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนไม่ต้องกักตัว จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขยับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัวจาก 1.7 ล้านคนในไตรมาสที่ 3 เป็น 3.6 ล้านคนในไตรมาสที่ 4
  • ปี 2565 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ถึงไตรมาสที่ 2 ประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึง 5.2 ล้านคนเมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ของปี 2565
  • ไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่องไตรมาสที่ 4 มีดาวสีเหลืองเน้นย้ำสมมติฐานที่ว่าภายในครึ่งปีหลังของปี 2565 นี้ประเทศส่วนใหญ่ รวมถึงประเทศไทยได้รับวัคซีนถึงระดับที่มีภูมิคุ้มกันหมู่ (60-70%) แล้ว และเริ่มเปิดประเทศแบบที่สายการบินพาณิชย์เปิดให้บริการได้โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขการฉีดวัคซีนและการกักตัว ซึ่ง ณ จุดนี้คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะจบปี 2565 ด้วยตัวเลข 7.3 ล้านคน

เป็นอย่างไรกันบ้างภายใต้กรอบระยะเวลาในอีก 2 ปีข้างหน้า คือ ปีนี้เกือบเต็มปี (ณ วันที่เขียนบทความ) ไปจนถึงสิ้นปี 2565 ภายใต้สมมติฐานข้างต้นจากธนาคารแห่งประเทศไทยเราจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 7.3 ล้านคน

คราวนี้เราก็จะเห็นภาพว่า “วัคซีน” เป็นตัวแปรหลักที่สำคัญที่จะทำให้เกิดการเดินทางระหว่างประเทศได้อีกครั้ง ควบคู่ไปกับการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศของแต่ละประเทศที่จะดำเนินการให้สอดคล้องกับปริมาณการได้รับวัคซีนเพื่อเน้นความปลอดภัยอย่างรอบคอบให้ได้มากที่สุด

ประเด็นต่อมา ภายใต้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประมาณการนั้น ถ้าเราย้อนกลับไปดูอันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในบ้านเราอันดับต้น ๆ แน่นอนว่าคือ ประเทศจีน มาเลเซีย รัสเซีย ญี่ปุ่น และอินเดีย ในแง่การสร้างรายได้สูงสุด 5 อันดับแรกในปี 2562 นั้นประเทศเหล่านี้มีมาตรการในเรื่องวัคซีนโควิด 19 และมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศอย่างไร การกำหนดช่วงเวลา(Timeline) ของแต่ละประเทศเป็นอย่างไร

สำหรับประเทศจีนนั้นจากเดิมเคยเดินทางเข้ามาในบ้านเรามากถึง 11.0 ล้านคนต่อปี และจีนเป็นประเทศแรกที่โดนโควิด-19 โจมตี และฟื้นตัวกลับมาได้ ประกอบกับสัมพันธไมตรีที่ประเทศเรามีกับประเทศจีน จึงอาจมองเห็นภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาตั้งแต่ครึ่งปีหลังในปี 2564 เป็นต้นไป คงเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่จะครอบครองส่วนแบ่งในตลาดเช่นเคย

สำหรับโรงแรมและรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ยอดนิยมของชาวจีนนั้น ปัจจุบันได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะทางภาคใต้ การที่จะวางกรอบระยะเวลาและเลี้ยงธุรกิจให้ไปถึงครึ่งปีหลังของปีนี้นั้นดูจะเป็นทางที่สาหัสทีเดียวโดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมในกลุ่ม SME และรายย่อยทั้งหลายที่ทะยอยปิดให้บริการเพราะไม่สามารถแบกภาระค่าใช้จ่ายต่อไปได้ ทั้งค่าไฟฟ้าและค่าเงินเดือนพนักงาน และลำพังการทำตลาดในประเทศนั้นแน่นอนว่าจำนวนอัตราการเข้าพักและการใช้จ่ายนั้นยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำมากไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ดังนั้น สมมติฐานข้างต้นจากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย คงต้องมาประกอบร่างกับมาตรการอื่น ๆ ทางด้านการเงินที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจโรงแรมสามารถยืนต่อไปได้จนถึงเวลาที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเกิดขึ้นตามประมาณการ

การรวมกลุ่มของโรงแรมรีสอร์ทขนาดเล็กถึงขนาดกลางเพื่อรวบรวมปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมตัวเลขที่ได้รับผลกระทบ การประเมินทางเลือกต่าง ๆ พร้อมตัวเลขที่ชัดเจนเพื่อนำเสนอต่อสถาบันการเงิน และหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้เห็นผลกระทบที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นน่าจะช่วยเพิ่มน้ำหนักและความรวดเร็วในการลงไปแก้ปัญหาอย่างแท้จริง….ลองรวมกลุ่มและนั่งทำตัวเลขร่วมกันดูนะคะ เช่น ในจังหวัดของคุณ มีโรงแรมขนาดต่ำกว่า 50 ห้องกี่โรง จำนวนพนักงานเฉลี่ยต่อโรงแรมอยู่ที่กี่คน วงเงินหมุนเวียนที่ต้องการเฉลี่ยต่อโรงแรมเดือนละเท่าไหร่ เทียบสัดส่วนระหว่างตัวเลขนักท่องเที่ยวในประเทศกับการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้กรอบระยะเวลาการได้รับวัคซีนเป็นอย่างไร พื้นที่ไหนที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือไม่ใช่จังหวัดหลักที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพัก ก็อยู่บนตัวเลขนักท่องเที่ยวในประเทศที่ประมาณการควบคู่ไปกับสมมติฐานดังตัวอย่างที่ธนาคารแห่งประเทศไทยทำ

หรือจะแบ่งกลุ่มเพื่อนๆโรงแรมที่พักในพื้นที่จังหวัดเดียวกันออกเป็นกลุ่ม แยกตามจำนวนห้องพัก หรือแยกตามระยะเวลาที่เปิดให้บริการ เพราะโรงแรมที่เปิดมามากกว่า 5 ปี หรือมากกว่า 10 ปี กับโรงแรมที่เปิดใหม่ ก็มีมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลขสถิติต่างๆที่เก็บได้จะเห็นภาพชัดเจนถึงวิธีปฎิบัติในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาว่าแต่ละโรงเลือกที่จะแก้ไขปัญหา ปรับตัวในทิศทางแบบไหน

ถ้าเรามีตัวเลขแต่ละจังหวัดที่ชัดขึ้นในแต่ละภาค เชื่อว่าเราจะสามารถร่วมมือกันฝ่าฟันวิกฤตนี้ร่วมกันไปได้ค่ะ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 ข้อแตกต่างที่ทำให้ Jensen Huang เป็นผู้นำใน 0.4% ด้วยพลัง Cognitive Hunger

บทความนี้จะพาทุกคนไปถอดรหัสความสำเร็จของ Jensen Huang ด้วยแนวคิด Cognitive Hunger ความตื่นกระหายการเรียนรู้ เคล็ดลับสำคัญที่สร้างความแตกต่างและนำพา NVIDIA ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับ...

Responsive image

เรื่องเล่าจาก Tim Cook “...ผมไม่เคยคิดเลยว่า Apple จะมีวันล้มละลาย”

Apple ก้าวเข้าสู่ยุค AI พร้อมรักษาจิตวิญญาณจาก Steve Jobs สู่อนาคตที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม โดย Tim Cook มุ่งเปลี่ยนโฉมเทคโนโลยีอีกครั้ง!...

Responsive image

วิจัยชี้ ‘Startup’ ยิ่งอายุมาก ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จ

บทความนี้ Techsauce จะพาคุณไปสำรวจว่าอะไรที่ทำให้ วัย 40 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนักธุรกิจและ Startup หลายคน...