แนวโน้มบทสรุป The Great Layoff 2022 เตรียมรับคลื่น Layoff ลูกใหญ่ต่อเนื่องถึงสิ้นปี | Techsauce

แนวโน้มบทสรุป The Great Layoff 2022 เตรียมรับคลื่น Layoff ลูกใหญ่ต่อเนื่องถึงสิ้นปี

ทุกประเทศกำลังเผชิญกับการรับมือปัญหาด้านเศรษฐกิจอย่างพร้อมเพียงกัน..ล่าสุด ในเดือนตุลาคม 2022 กลุ่มเทคฯ รายใหญ่ ยูนิคอร์นและสตาร์ทอัพชั้นนำทั่วโลก มีการเลิกจ้างรวมกันเกิน 900 องค์กร มีผู้ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 144,000 คน หากใครที่ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องจะเริ่มเห็นภาพรวมถึงผลกระทบที่เชื่อมโยงไปยังส่วนต่างๆ 

แนวโน้มบทสรุป The Great Layoff 2022 เตรียมรับคลื่น Layoff ลูกใหญ่ต่อเนื่องถึงสิ้นปี

RECAP สถานการณ์ล่าสุดหลังผ่านไตรมาสสอง 

เราทุกคนล้วนเห็นแล้วว่าช่วงที่ผ่านมาคลื่นของการชะลอและเลิกจ้างในปีนี้มีขนาดใหญ่มาก ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระแสการเลิกจ้างครั้งใหญ่ได้กวาดล้างธุรกิจต่างๆ การดึงเงินลงทุนออกจากระบบมหภาคเพื่อรัดเข็มขัด และมุ่งเน้นไปที่กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและความสามารถในการทำกำไร ส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างงานแบบโดมิโน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและกระจายทั่วทุกภูมิภาค ด้านหนึ่งอาจเพิ่มอุปสงค์แก่ตลาดแรงงาน ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นในบางอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติบโตของธุรกิจชะลอตัวลง แต่ยังต้องแบกภาระต้นทุนคงที่หลายประการ การเลิกจ้างเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ

ต้นปีจนถึงกลางปีมีการชะลอจ้างงานและปลดลูกจ้างอย่างหนักในทุกภาคส่วนอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง มิถุนายน คือ เดือนที่มีอัตราการ Layoff สูงที่สุด 


แนวโน้มบทสรุป The Great Layoff 2022 เตรียมรับคลื่น Layoff ลูกใหญ่ต่อเนื่องถึงสิ้นปี


สาเหตุแรก ผลจากการที่บริษัทส่วนใหญ่ มีการตระเตรียมองค์กร จัดลำดับความสำคัญด้านการเงินใหม่ก่อนสิ้นสุดปี จากนั้นหลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งแรกในเดือนมิถุนายนและครั้งที่สองในเดือนกรกฎาคม ได้สร้างความตึงเครียดต่อเศรษฐกิจมหภาค ความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้กลายเป็นความจริงมากขึ้น สถาบันการเงินและภาครัฐต่างถ่วงดุลอัดฉีดเม็ดเงินสารพัดเพื่อประคองสภาพเศรษฐกิจในประเทศตน ธุรกิจ ตลาดแรงงานฐานะคนทั่วที่ได้รับผลกระทบ หาทางปรับตัวจนสุดเพดาน รายย่อย บริษัทเทคฯ สตาร์ทอัพ ต้องเผชิญกับการประเมินราคาที่ลดลง 

โดยการหาเงินทุนใหม่ในสภาพแวดล้อมนี้ยากกว่ามาก สตาร์ทอัพที่ไร้ผลกำไรและรายได้อาจเท่ากับอยู่ในสถานะที่ล่อแหลม และมีความเป็นไปได้สูงนักลงทุนทั้งในตลาดภาครัฐและเอกชนเปลี่ยนแปลงตัวชี้วัดมูลค่าให้กับบริษัทเทคโนโลยี เช่น การเติบโตที่สูง และมุ่งเน้นไปที่กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและความสามารถในการทำกำไร

บทความที่เกี่ยวข้อง 

TrueUp หนึ่งในแพลตฟอร์มสรรหาบุคลากรด้านเทคฯที่ติดตามการ Layoff ในวงการ วาดภาพที่น่ากลัวมากขึ้น โดยระบุว่ามีพนักงานที่ได้รับผลกระทบ 26,000 คนในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 20,000 คนในเดือนที่แล้ว โดยตัวเลขการเลิกจ้างล่าสุด เดือนตุลาคม 2022 ในกลุ่มเทคฯ รายใหญ่ ยูนิคอร์นและสตาร์ทอัพชั้นนำ รวมกันเกิน 900 องค์กรและ มีผู้ได้รับผลกระทบแล้วทั้งสิ้น 144,000 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2022) 

บริษัททุกขนาดได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดในปัจจุบัน Big Tech ยังคงเป็นผู้นำในการชะลอจ้างยาวตั้งแต่ต้นปี Microsoft Apple Meta Google Amazon Tesla Netflix บางรายมากกว่าหนึ่งครั้ง อีโคซิสเท็มสตาร์ทอัพนั้นได้รับผลกระทบที่รุนแรงยิ่งขึ้น และกลายเป็นว่าสถานการณ์ในช่วงสิงหาคมถึงกันยายน มีการประกาศจ้างเกือบทุกทุกภาคส่วน นอกเหนือจากภาคเทคโนโลยี  และนี่เป็นส่วนหนึ่งที่รวบรวมมานำเสนอ

  • ต้นเดือนสิงหาคม Robinhood แอปฯซื้อขายหลักทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ประกาศลดพนักงานครั้งใหญ่รอบที่สองของปีถึง 23% จากทั้งหมด 3,900 คนลดลงถึงใกล้แตะ 2,700 คน โดยอ้างเหตุผลถึงกิจกรรมการซื้อขายของลูกค้าลดลง เพราะ ความถดถอยของเศรษฐกิจระดับมหภาค อัตราเงินเฟ้อ และ ความผิดพลาดของตลาดคริปโตฯในวงกว้าง ตามด้วย Oracle ยักษ์ใหญ่ด้าน Database ผู้ผลิตชิปและชิ้นส่วนสำคัญในอิเล็กทรอนิกส์ Intel, Nvidia ภาคการเงิน อสังหาริมทรัพย์ บริการออนดีมานด์ด้านต่างๆ ในสหรัฐฯ เช่น  Lyft, Wayfair, Shopify, Carvana, Uber, Peloton เป็นต้น 
  • สำหรับบิ๊กเทคฯ Apple จับมือ Google ประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการชะลอจ้างงานในบางแผนกและเตรียมควบคุมค่าใช้จ่ายในปี 2023 Amazon และ Meta เทขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสำนักงาน ลดจำนวนพื้นที่ที่วาง ระงับการสร้างสำนักงานใหม่อีกหลายแห่ง ตามด้วยการประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมา 
  • ด้านแพลตฟอร์มสตรีมมิง Netflixที่ปรับครั้งใหญ่มากกว่าหนึ่งรอบในช่วงครึ่งปีแรก ช่วงเวลานี้ Netflix เพียงประกาศยุบบางสตูดิโอ เช่น Netflix Animation และ HBO Max ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดสรรบุคลากรใหม่หลังจากการควบรวมชองบริษัทแม่ระหว่าง Warner Discovery Inc และ Warner Media
  • โซนเอเชีย Alibaba ประกาศเลิกจ้างพนักงานถึง 10,000 ชีวิตหลังจากผ่านเดือนมิถุนายน Tencent 5,000 ชีวิต ตามด้วยการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของบริษัทอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  Shopee ที่ประกาศปรับลดพนักงานทั้งในภูมิภาคเอเชียและละตินอเมริกาหลายภาคส่วนเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจ 

คลื่น Layoff ลูกใหญ่ต่อเนื่องถึงสิ้นปี 

หลังจากนี้นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่า จะมีการเลิกจ้างจำนวนมากในช่วงปลายปีนี้ มีการคาดการณ์ถึงการยุติการดำเนินงานธุรกิจและการเลิกจ้างที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การสำรวจของ PwC ซึ่งสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารและบอร์ดบริหารจากองค์กรต่าง ๆ กว่า 700 คนทั่วสหรัฐอเมริกา ระบุ หลายบริษัทต่างมีแผนที่จะปรับขนาดองค์กร 

Jan Hatzius หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs ได้ระบุแนวโน้มเชิงลบต่อตลาดงาน  "มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะทำให้การเติบโตของตลาดงานลดลงอย่างรวดเร็วอีก" การว่างงานจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจแตะ 4% ภายในปี 2024 เพราะหลายองค์กรทำการลดต้นทุนที่ต้องแบกรับมหาศาลเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ภาวะถดถอยจะทำลายตลาดงานมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามจะยังมีความต้องการแรงงานในขณะเดียวกัน น่าตกใจตรงที่ Goldman Sachs เองก็ประกาศถึงเตรียมเลิกจ้างกว่า 100 ตำแหน่งในส่วนสำนักงานที่ New York เมื่อไม่นานมานี้ 

แนวโน้มของบทสรุปไตรมาส ภาพรวมตลาดแรงงานหลังจากนี้ 

จากวิกฤตดังกล่าว หลายองค์กรพยายามอย่างหนักในการจัดลำดับความสำคัญทางธุรกิจ หากต้นทุนหรือกระแสเงินสด คือ เลือดที่หล่อเลี้ยงบริษัทแล้วนั้นก็อาจกล่าวได้ว่าต้นทุนมนุษย์ คือ หัวใจสำคัญขององค์กร  

เราได้เห็นหลายองค์กรพยายามรับมือกับความไม่พอใจของพนักงาน รวมถึงรับมือกับการชดเชยต่อผู้ที่ถูกบอกเลิกจ้าง หลายแห่งเพิ่มทางเลือกและความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น เพิ่มค่าจ้าง ขยายโอกาสและผลประโยชน์ที่จะทำให้พนักงานไม่เสียกำลังใจและรู้สึกมีบทบาทในการทำงานร่วมกันรวมถึงผ่านวิกฤตไปด้วยกัน 

ขณะเดียวกันหลายธุรกิจ มองว่าวิกฤตยังเต็มไปด้วยโอกาสและใช้ช่วงเวลานี้เองในการรับสมัคร Talent เสนอทางเลือกที่ดีกว่าเดิมเพื่อดึงดูดยอดฝีมือจากคู่แข่ง สร้างแรงหนุนที่แข็งแกร่งให้กับตลาดแรงงาน

สำหรับภาคเทคโนโลยีและผู้เล่นหน้าใหม่ที่เติบโตก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา จะสามารถกลับมาตั้งหลักได้ นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่าอย่างไรก็ตามแนวโน้มงานในภาคเทคฯ จะยังคงสดใสในระยะยาว อ้างอิงสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ระบุไปในทางเดียวกันว่า นักพัฒนาและวิศวกรซอฟต์แวร์ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทศวรรษหน้า แรงงานดิจิทัลที่มีทักษะที่จำเป็นในอุตสาหกรรมจะมีโอกาสสูงกว่าคนอื่นๆ เพราะงานด้านเทคโนโลยีจะยังเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน เช่นเดียวกับผลสำรวจจากหลายสำนัก

สำหรับแนวโน้มส่งท้ายปีและไม่กี่ไตรมาสข้างหน้านี้ ธุรกิจทั่วโลกต้องดิ้นรนมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากและไม่มีความแน่นอนไปอีกระยะ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวและมีช่องทางในการขยับขยายธุรกิจใหม่ๆ หากมองว่าทุกวิกฤตมีโอกาส ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้คุณหันกลับมองว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจอย่างแท้จริง หรือสิ่งใดจะเป็นโอกาสที่ควรค่าแก่การลงทุนอย่างแท้จริงในระยะยาว


อ้างอิงข้อมูลจาก 

Tech Layoffs And Hiring Freezes Appear To Accelerate

Can We Expect Unexpected Layoffs In 2022?

Tech layoffs continue across the board

The Great Resignation Is Turning Into The Great Uncertainty

From Great Resignation to Great Layoff, an increasingly worrying trend in the tech sector?

It’s White-Collar Jobs That Are at Risk in the Next Recession






 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

5 เคล็ดลับมองโลก จากผู้นำระดับท็อปที่ประสบความสำเร็จ

แม้ว่าจะไม่สูตรตายตัวที่จะประสบความสำเร็จแต่มี 5 อันดับที่ขาดไม่ได้ของเหล่า ผู้นำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกตั้งแต่ Elon Musk , Jeff Bezos จนไปถึง Susan Wojcicki ถ้าอยากรู้ว่า...

Responsive image

5 คนที่ควรมีในชีวิต ถ้าคิดอยากประสบความสำเร็จ

เส้นทางสู่ความสำเร็จ เดินคนเดียวอาจไปถึงช้า จะดีกว่าไหมถ้ามีคนที่ใช่เคียงข้างไปด้วย บทความนี้จะชวนทุกคนตามหา 5 ความสัมพันธ์ที่เราควรมี เพื่อเส้นทางสู่ความสำเร็จ...

Responsive image

ถอด 4 บทเรียนธุรกิจ Taylor Swift ชื่อศิลปินที่มีมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท

Taylor Swift ไม่ใช่แค่ของชื่อศิลปินอีกแล้ว กลายเป็น Branding ที่มีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ความสำเร็จของ Taylor Swift ก็มีส่วนที่หยิบมาใช้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจได้เช่นเดียวกัน...