One Bad Apple Effect วิจัยพบพนักงานดีเด่นก็อาจโกงได้ ถ้าทำงานกับคนไม่ดีเพียงคนเดียว | Techsauce

One Bad Apple Effect วิจัยพบพนักงานดีเด่นก็อาจโกงได้ ถ้าทำงานกับคนไม่ดีเพียงคนเดียว

ใครเคยได้ยินคำว่า One Bad Apple Effect บ้าง ? เค้าว่าปลาเน่าตัวเดียวทำเหม็นไปทั้งข้อง คนไม่ดีคนเดียวอาจทำเสียทั้งหมู่คณะ ในองค์กรก็มีเช่นกัน แล้วบริษัทจะจัดการยังไง ?

รู้จัก One bad apple effect 

One Bad Apple Effect ก็คือคนเพียงคนเดียวที่สร้างปัญหาและทำให้เกิดผลเสียต่อคนทั้งกลุ่ม ก็เหมือนในสุภาษิตไทยที่ว่า ปลาเน่าตัวเดียวทำเหม็นไปทั้งข้อง และเป็นอีกปัญหาที่จะทำลายวัฒนธรรมที่ดีและพนักงานที่ดีขององค์กร

One Bad Apple Effect

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันได้ทำการศึกษาทีมที่ทำงานร่วมกันกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 50 ทีมจากหลายอุตสาหกรรม พบว่าทีมที่มีสมาชิกที่ไม่เป็นมิตรและไม่มีความรับผิดชอบเพียงคนเดียว มีแนวโน้มจะทำให้ทุกคนขัดแย้งกัน การสื่อสารภายในทีมแย่ และจะไม่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน

แม้แต่คนดีก็เปลี่ยนสีได้ถ้าอยู่ใกล้คนไม่ดี 

แม้แต่คนที่ดีมากก็อาจเปลี่ยนเป็นคนไม่ดีได้ จากวิจัยโดย Stephen Dimmock และ William C. Gerken ที่เผยแพร่ใน Harvard Business Review พบว่า แม้แต่พนักงานที่ซื่อสัตย์ที่สุด ก็มีแนวโน้มจะทำเรื่องเสื่อมเสีย ถ้าเขาทำงานใกล้ชิดกับพนักงานไม่ดีเพียงคนเดียว และการเปลี่ยนคนดีเป็นคนชั่วมันง่ายกว่าที่จะเปลี่ยนคนชั่วเป็นคนดี

ก่อนจะจัดการปัญหานี้ เราต้องรู้ก่อนว่าแล้วพฤติกรรมไม่ดีมันถูกส่งต่อกันได้ยังไง เพราะนี่ไม่ใช่โรคที่ติดต่อกันได้ง่ายๆ

วิจัยดังกล่าวพยายามหาคำตอบนี้ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมอาชีพที่ปรึกษาทางการเงิน โดยโฟกัสที่การควบรวมกิจการระหว่างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ที่แต่ละแห่งมีหลายสาขา เพราะในการควบรวมกิจการเหล่านี้ ที่ปรึกษาทางการเงินจะได้พบกับเพื่อนร่วมงานใหม่จากสาขาใดสาขาหนึ่งของบริษัทอื่น ทำให้พวกเขาได้รับแนวคิดและพฤติกรรมใหม่ๆ

คนแบบเดียวกันจะดึงดูดกัน 

ผลวิจัยชี้ว่า ที่ปรึกษาทางการเงินมีแนวโน้มที่จะประพฤติมิชอบมากขึ้น 37% หากพบเพื่อนร่วมงานใหม่ที่มีประวัติทุจริต และโดยเฉลี่ยแล้ว การทุจริต 1 เคส จะส่งผลให้เกิดการทุจริตเพิ่มอีก 0.59 เคส ด้วยผลกระทบจากเพื่อนร่วมงานนั่นเอง

ปัจจัยก็มาจากการที่พนักงานแต่ละคนเรียนรู้พฤติกรรมหรือบรรทัดฐานทางสังคมจากกันและกัน และเผชิญกับสิ่งจูงใจแบบเดียวกัน หรือเพราะคนแบบเดียวกันมักเลือกจะทำงานด้วยกัน และจะยิ่งมีพฤติกรรมรุนแรงขึ้นหากใกล้ชิดกับคนทุจริตที่มีเชื้อชาติเดียวกันด้วย (กรณีนี้ผลกระทบจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า)

เราจะแก้ปัญหานี้ยังไง 

แล้วเราจะจัดการคนแบบนี้ยังไง ? วิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตันพบว่ามีสามทางออก สองทางแรกได้แก่ การขอให้คนที่มีปัญหาเปลี่ยนพฤติกรรม และถ้ายังแก้ไม่ได้อาจนำไปสู่วิธีที่สองคือ ตัดเขาออกไปซะ (ไล่ออกหรือย้ายออกไปจากทีม)

ซึ่งมันพูดง่ายแต่ทำยากมากๆ อาจเป็นเพราะข้อจำกัดของบางองค์กร เช่น ขาดกระบวนการที่ดี หรือผู้บริหารระดับสูงไม่มีอำนาจหรือประสิทธิภาพพอจะจัดการปัญหา (หรืออาจเป็นเพราะคนที่มีปัญหาเป็นคนสำคัญของบริษัท เช่น มีความอาวุโสหรือมีความสามารถ)

และหากสองวิธีข้างต้นแก้ไขไม่ได้ พนักงานที่ได้รับผลกระทบแย่ๆ นี้จะเลือกวิธีปกป้องตัวเอง ด้วยการแยกตัวออกจากทีมทั้งทางกายและใจ พร้อมด้วยความรู้สึกโกรธ วิตกกังวล และไม่เหลือความไว้ใจให้เพื่อนร่วมงาน

สำหรับหัวหน้างานหรือเจ้าของบริษัท เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องพยายามทำความเข้าใจและตระหนักว่าพฤติกรรมไม่ดีของพนักงานเพียงคนเดียว อาจถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ อย่างง่ายดายและอาจทำลายวัฒนธรรมองค์กรที่คุณพยายามสร้าง

การสร้างทีมที่ดีต้องเริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดเลือกพนักงาน อาจใช้แบบทดสอบบุคลิกภาพที่สะท้อนความมั่นคงทางจิตใจ และทักษะทางสังคม นอกจากนั้นต้องมีกระบวนการจัดการปัญหาที่ชัดเจน ท้ายที่สุดคุณอาจต้องยอมเสียพนักงาน Toxic คนนี้ไป แม้เขาจะเป็นคนเก่งหรืออาวุโสเพียงไดก็ตาม เพื่อรักษาทีมไว้ 

อ้างอิง : Harvard Business Review , Washington.edu 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทีมงานคุณภาพ เขาทำงานกันยังไง ? เผย 5 สูตรลับที่พนักงานเก่งใช้ในออฟฟิศ

ทีมงานคุณภาพทำงานแตกต่างจากทีมอื่นยังไง บทความนี้จะมาแชร์ 5 ข้อที่ทีมประสิทธิภาพสูงทำในที่ทำงาน...

Responsive image

ระวังหัวหน้าแย่เงียบ เช็ก 3 ลักษณะผู้นำ ‘ยอดแย่’

เช็กด่วนมีคนแบบนี้เป็นหัวหน้าอยู่หรือเปล่า! เจาะ 3 ลักษณะหัวหน้าแย่เงียบ ที่ไม่สังเกตอาจดูไม่ออกและส่งผลร้ายแรงต่อการทำงานของคุณแบบไม่รู้ตัว...

Responsive image

งานไม่เคยจบในที่ทำงาน ตามกลับมาบ้านด้วยเสมอ ปัญหาของชาว Hybrid Working ต้องแก้ยังไง?

บทความนี้ Techsauce จึงได้รวบรวม How to ทิ้งงานไว้ที่ออฟฟิศ และทวงคืนชีวิตที่มีคุณภาพของชาว Hybrid Working...