OSP ขยายพอร์ตสินค้า รุกตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพตอบรับวิถีชิวิตผู้บริโภคยุค New Normal | Techsauce

OSP ขยายพอร์ตสินค้า รุกตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพตอบรับวิถีชิวิตผู้บริโภคยุค New Normal

‘บมจ.โอสถสภา (OSP)’ ชูองค์ความรู้และประสบการณ์ดำเนินธุรกิจในไทยมานานกว่า 129 ปี สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตยุค New Normal ของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพและสุขอนามัย หลังประสบความสำเร็จในการทำตลาดผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือภายใต้แบรนด์ ‘โอเล่’ และแบรนด์ ‘เบบี้มายด์’ ที่นำจุดแข็งของแบรนด์มาสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง รวมถึงนำคุณสมบัติของสมุนไพรสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่ม ตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมพัฒนาช่องทางอีคอมเมิร์ซต่อเนื่อง รับยอดขายพุ่ง 3 เท่าตัว   

คุณเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหารและ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า ไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ส่งผลต่อวิถีชีวิตของผู้บริโภคและทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงรวดเร็วกว่ายุค Digital Disruption จึงทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวด้วยการนำเสนอกลยุทธ์ใหม่ๆ ซึ่ง OSP ได้นำองค์ความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจในไทยมานานกว่า 129 ปี เสริมทัพสร้างความเข้มแข็งและนำองค์กรก้าวข้ามผ่านวิกฤติในครั้งนี้  โดยนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์มาเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่ง ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่เป็น New Normal ของผู้บริโภค

OSP ใส่ใจและศึกษาความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ต้องสามารถสร้างนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที ผลกระทบจากโควิด-19 ก่อให้เกิด New Normal ยุคที่ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย แต่ไม่ลังเลที่ซื้ออาหารและยา พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เคยทำอยู่ประจำ ได้แก่ ไม่แตะสัมผัส ไม่เดินทาง และไม่เพิ่มเติมในสิ่งที่ไม่จำเป็น ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่โอสถสภาใช้เป็นหลักในการเตรียมกลยุทธ์พร้อมรับมือ โดยมีนวัตกรรมเป็นอาวุธสำคัญ

ปีที่ผ่านมา โอสถสภาได้จัดตั้ง ‘ศูนย์นวัตกรรมโอสถสภา’ ขึ้นที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี ศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แหล่งต้นกำเนิดนวัตกรรมเพื่ออนาคตของไทย ครบครันด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเครือข่ายนักวิจัยและนักวิชาการระดับชาติของ สวทช. ซึ่งช่วยสนับสนุนการวิจัยพัฒนาต่างๆ โดยโอสถสภาเน้นการวิจัยและพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบครอบคลุมต้นน้ำถึงปลายน้ำ การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมโอสถสภานี้ ช่วยให้โอสถสภาสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบไลฟ์สไตล์ New Normal ได้อย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์

กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับสุขอนามัยมากขึ้น ด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ 70% สำหรับล้างมือที่มีเอกลักษณ์และคุณสมบัติพิเศษต่างจากสินค้าอื่นๆ ในท้องตลาด ทั้งแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ ภายใต้แบรนด์ ‘โอเล่’ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างความโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมซิกเนเจอร์ของลูกอมโอเล่ เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่มองหาเจลล้างมือที่มีกลิ่นหอม ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำความสะอาดมือ โดยผิวยังคงความชุ่มชื่น ทั้งรูปแบบเจลขวดเหมาะสำหรับใช้ในบ้านและแบบตลับสเปรย์ที่สามารถพกพาออกไปข้างนอก รวมถึงผลิตภัณฑ์ ‘เบบี้มายด์ แนชเชอรัล แฮนด์ ซานิไทเซอร์ เจล’ สำหรับคุณแม่ที่ต้องการแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือสำหรับผิวอันบอบบางของลูกน้อย  เพิ่มความมั่นใจในความอ่อนโยนด้วยสารสกัดอโลเวร่าออร์แกนิก ที่ผ่านการรับรองจากสถาบันรับรองออร์แกนิกระดับโลก ECOCERT®  และผลิตภัณฑ์เบบี้มายด์ เบบี้ครีม แอนตี้ โพลูชั่น ซึ่งผสานสารสกัดมะรุมจากฝรั่งเศส ช่วยเคลือบปกป้องผิวจากฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ควัน และสิ่งสกปรก 

ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่มนั้น ได้ชูคุณสมบัติเพื่อสุขภาพจากคุณประโยชน์ของสมุนไพร ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่แบรนด์สินค้าและสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค อาทิ เครื่องดื่มบำรุงกำลังเอ็ม-150 สูตรใหม่ ผสมคุณประโยชน์ของกระชายดำและน้ำผึ้งในขวดเดียว หรือแบรนด์ ‘เปปทีน โกลด์’ ซึ่งมีส่วนผสมของ Superfood เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ระดับพรีเมียม สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเมื่อมีอายุมากขึ้น เครื่องดื่มเอ็มเพรสโซ โรบัสต้า โกลด์ ที่ผสมโสมเกาหลีสกัดเพื่อบำรุงสุขภาพ รวมถึงแผนเพิ่มกำลังการผลิตเครืองดื่มวิตามินซีเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ ‘ซี-วิต’ อีก 10-15% เพื่อตอบสนองดีมานต์ของตลาด หลังมีส่วนแบ่งการตลาดในไตรมาสแรกเพิ่มเป็น 31.3% และช่วยผลักดันให้ภาพรวมตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์ในไตรมาสนี้เติบโตถึง 16.1%

“ความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในดีเอ็นเอของโอสถสภามาโดยตลอด ในสถานการณ์ครั้งนี้ สิ่งที่โอสถสภามองเห็นจึงไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นโอกาสสำหรับใช้ความคิดสร้างสรรค์ องค์ความรู้ และความเร็วเพื่อสร้างความแข็งแกร่งกว่าเดิมให้แก่ธุรกิจ” คุณเพชร กล่าว 

ขณะเดียวกัน ยังได้พัฒนาการจำหน่ายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้นในทุกแพลตฟอร์ม เพื่อตอบรับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ต้องการสำรองสินค้าไว้ในบ้านและหลีกเลี่ยงการออกไปจับจ่ายนอกบ้าน ด้วยแคมเปญการตลาดที่เน้นความคุ้มค่า และยังมีสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องเปลี่ยนมา Work from Home อาทิ เครื่องดื่มสลิมม่า เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของใยอาหาร แอลคาร์นิทีน และวิตามินบี ช่วยลดการดูดซึมและเผาผลาญไขมัน ตัวช่วยสำคัญของผู้ที่ต้องทำงานที่บ้านและไม่มีเวลาออกกำลังกาย ครีมกันแดดโปรฮาดะ ซึ่งมีเทคโนโลยี BLUESHIELD® ด้วยสารสกัดจากพริกหยวกแดง ที่ช่วยปกป้องแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมเพิวเตอร์และรังสียูวีในแสงแดด เพื่อดูแลผิวของสาวๆ วัยทำงานที่ต้อง Work from Home นั่งหน้าจอเป็นเวลานานๆ ส่งผลให้ช่องทางอีคอมเมิร์ซมียอดขายเติบโตสูงถึง 3 เท่า

“ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แม้เป็นช่วงที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ แต่โอสถสภายังมองเห็นโอกาส และได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านนวัตกรรมที่ไม่เป็นรองใคร มีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้โอสถสภาเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปอีกด้วย” คุณเพชร กล่าว

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แอดวานซ์เทค ครบรอบ 20 ปีในไทย ย้ำจุดยืนผู้นำ AI-IoT และ “Edge AI” ยกระดับ Smart Manufacturing, Smart City และ ESG สู่ความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชัน AI, IoT และคอมพิวเตอร์เฉพาะทาง ได้จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ...

Responsive image

ยกระดับบริการลูกค้าด้วย AI BOTNOI Voice บน AWS ช่วยองค์กรไทยสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

AWS ประกาศในวันนี้ว่า BOTNOI สตาร์ทอัพด้าน Generative AI ของไทยที่เชี่ยวชาญในการสร้างผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับการสนทนา ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม BOTNOI Voice ขึ้นบนคลาวด์ของ AWS...

Responsive image

ดีอี ผนึก ‘อว.- ศธ.’ ร่วมมือ UNESCO นำเวที UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025

ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพงาน “UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายใต้แนวคิด “Ethical Governance of AI in Motion” ย้ำบทบาทผู้นำจริยธรรม AI ระดั...