ฟองสบู่ Bitcoin ยังไม่แตก และจะไม่ลงไปต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ | Techsauce

ฟองสบู่ Bitcoin ยังไม่แตก และจะไม่ลงไปต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

คุณปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ให้บริการเว็บเทรด Satang Pro กล่าวถึงสถานการณ์ที่ราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า $30,000 ในวันนี้ (22 มกราคม 64) ว่า  “ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาราคา Bitcoin ขึ้นเร็วมาก จนหลายคนมองว่าเร็ว ๆ นี้ก็จะต้องปรับฐาน เหมือนกับที่เคยเป็นมาในอดีตเช่นปี 2017-2018 ในมุมมองของผม Cycle นี้ของ Bitcoin ยังไม่จบ ฟองสบู่ Bitcoin ยังไม่แตก และจะสามารถทำ New High ได้อีก! JP Morgan ออกมายอมรับว่า Bitcoin จะเป็นการลงทุนที่ดีและบอกว่าราคาอาจจะขึ้นไปถึง $146,000 ในระยะยาว”  

คุณปรมินทร์ วิเคราะห์ว่า การที่ Bitcoin ทำราคาสูงสุดใหม่หลายครั้งนั้น ตลาดกำลังส่งสัญญาณว่าความสำคัญของเหล่าวาฬนักลงทุนรายใหญ่ (Big Whale ) เริ่มลดบทบาทลงเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันผู้เล่นรายใหญ่และหน้าใหม่ ซึ่งเป็นนักลงทุนสถาบัน (Hedge Funds, Asset Management, Corporates ) เข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2020  เป็นต้นมา 

“ผมเคยบอกมาตลอดว่า Bitcoin จะเป็นสิ่งที่หายากขึ้นไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้ แต่คือปัจจุบันนี้แล้ว ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา Bitcoin ประมาณ 270,000 Bitcoin มูลค่า $ 9.4 พันล้าน หรือ ประมาณเกือบ 3แสนล้านบาท  ได้ถูกโอนออกจากกระดานเทรด (Exchange) ไปเก็บข้างนอกแทน ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นปริมาณที่สูงมาก เพราะมากกว่า 1% ของจำนวน Bitcoin ที่ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ ถูกย้ายไปยังนักลงทุนสถาบันการเงินหรือ Whale ที่เป็นผู้ถือ Bitcoin ระยะยาวเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ Grayscale Bitcoin Trust ถือ Bitcoin มากกว่า 600,000 BTC หรือเรียกได้ว่ามากกว่า 3% ของ Bitcoin ในตลาดโลกอยู่ในมือ Grayscale”

“ซึ่งนั่นแปลว่า Bitcoin จะขึ้นหรือลงในตลาดตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้จำนวนเงินเยอะในการดันหรือทุบราคา ถ้าวาฬจะทุบเพื่อ Shake Out จากรายย่อยก็ไม่ต้องใช้เงินมาก หรือจะลากให้ราคาขึ้น เพื่อให้รายย่อยเข้าตามก็ไม่ต้องใช้เงินมากเช่นกัน ดังนั้นตลาดร้อนแรง ความเสี่ยงสูง นักลงทุนต้องบริหารเงินให้เป็น” ปรมินทร์ กล่าวเตือน 

“จะเห็นได้ว่าราคา Bitcoin นั้นผันผวนแรงจาก $ 42,000  ลงมาต่ำกว่า$ 30,000 นั้นเป็นไปได้ภายในเวลาไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นแล้วเงินที่จะนำมาใช้ลงทุนในคริปโต ผมแนะนำว่าควรจะเป็นเงินเย็น เป็นเงินที่เรายอมรับได้ถ้าเกิดการสูญเสีย เงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือเงินที่ไปกู้มาผมก็ยังยืนยันว่าไม่ควรเสี่ยงเด็ดขาด ต่อให้รู้ว่าตลาดมันจะขึ้นก็ตาม นักลงทุนมือใหม่ควรศึกษาหาความรู้ให้เข้าใจ เทรดแบบมองข้อมูลเชิงพื้นฐานและศึกษาข้อมูลเชิงลึกด้วยเพื่อป้องกันความเสี่ยง ที่สำคัญคือต้องใช้สติและวิจารณญาณในการลงทุน”

เหตุผลสำคัญ 3 ข้อ ที่ทำให้ Bitcoin จะไม่ลงไปต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหมือนช่วงปี 2018 – ก่อนไตรมาสที่ 4 ปี 2020 ก็คือ 

  1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนมาก  เพราะสหรัฐฯกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ใช้ทั้งนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และนโยบายการคลังที่ผ่านสภาคองเกรส แบบมโหฬาร นโยบายของ Joe Biden คือผลิตเงินขึ้นมาอีกสามล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้หลาย ๆ บริษัทและนักลงทุนต้องหาทางลดสภาพคล่องด้วยการนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการเก็บเงินสด  
  2. Bitcoin คือสินทรัพย์คงคลังตัวใหม่ บริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะ Reserve Asset มากขึ้นอย่างก้าวกระโดดถ้าเทียบกับช่วง  3 ปีที่ผ่านมา ล่าสุด BlackRock ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดก็เข้ามาในตลาด Bitcoin แล้ว โดยกำลังเตรียมการเข้าสู่ตลาดอนุพันธ์หรือ Bitcoin Futures รวมถึงได้ยื่นหนังสือถึงก.ล.ต.สหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว 2 ฉบับ ได้แก่ BlackRock Funds V และ BlackRock Global Allocation Fund, Inc. ซึ่งBlackRock มี Assets under management: 7.81 trillion USD หรือประมาณ 234 ล้านล้านบาท 
  3. สินทรัพย์ดิจิทัล เริ่มมีช่องทางการเข้าถึงที่แพร่หลายสู่ผู้ใช้ทั่วโลกมากขึ้น ผ่าน Paypal ที่มีทั้ง 20 ล้าน ร้านค้า และ สมาชิกผู้ใช้ทั่วโลกประจำอยู่ 346 ล้านสมาชิก รวมไปถึงความร่วมมือของ Visa และ USDC ซึ่งจะทำให้ร้านค้าจำนวน 60 ล้าน ร้านค้าทั่วโลกเข้าถึงการใช้เงินคริปโตได้

“เรากำลังอยู่ในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง และปีนี้ Bitcoin และคริปโตเคอรร์เรนซี่จะถูกยอมรับโดยคนทั่วโลก เป็น Mass Adoption มากขึ้น และอยากฝากว่านักลงทุนมือใหม่อย่าหลงเชื่อคนที่มาชวนลงทุนแบบตรวจสอบไม่ได้ จะซื้อขายให้ปลอดภัย ต้องผ่านเว็บเทรดที่ ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต อย่าง Satang Pro ที่เน้นการพัฒนาระบบความเสถียร รวดเร็ว  ตลอดจนรักษามาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลและสินทรัพย์ของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง” ปรมินทร์ สรุป

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทีทีบี คว้ารางวัลธนาคารที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าธุรกิจ Thailand Best Bank for Corporates

ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) คว้ารางวัล Thailand Best Bank for Corporates จาก Euromoney Awards 2024 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนธุรกิจไทยด้วยโซลูชันดิจิทัลและความยั่งยืนผ่านกรอบ B+ESG พร...

Responsive image

AstraZeneca รับรางวัล Most Innovative Company จาก BCCT จากความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม AI ด้านสุขภาพ

แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เข้ารับรางวัล Most Innovative Company (รางวัลบริษัทยอดเยี่ยมด้านนวัตกรรม) จาก สภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเป็นผู...

Responsive image

Gourmet Market เปิดตัวรถเข็น Smart Cart ครั้งแรกในไทย ค้นหาสินค้า หาโปรโมชัน คิดเงิน ครบจบในคันเดียว

กูร์เมต์ มาร์เก็ต ยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งสู่ยุคดิจิทัล เปิดตัว “Gourmet Market Smart Cart” เจ้าแรกในประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Shopping Made Easy at Once” ก้าวสู่การเป็นสมาร์ทซูเ...