กลุ่มศรีตรัง เดินหน้า Digital Transformation เตรียมนำ AI-Robotic ใช้ในโรงงานใหม่ ยกระดับอุตสาหกรรมยางด้วยเทคโนโลยี | Techsauce

กลุ่มศรีตรัง เดินหน้า Digital Transformation เตรียมนำ AI-Robotic ใช้ในโรงงานใหม่ ยกระดับอุตสาหกรรมยางด้วยเทคโนโลยี

บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) ผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รุก ‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน’ ก้าวสู่ยุค 4.0 นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใช้ในโรงงานแห่งใหม่เป็นระบบออโตเมชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการเพิ่มแรงงานใหม่ วางเป้าหมายปี 2567 แรงงาน 1 คน จะผลิตยางเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 35 ตัน จากปี 63 เฉลี่ยอยู่ที่ 16 ตัน รุกพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘ศรีตรังเพื่อนชาวสวน’ เวอร์ชั่นใหม่ ยกระดับเป็น Super App ให้ชาวสวนรับสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้น 

บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) รุก Digital Transformation ก้าวสู่ยุค 4.0 นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใช้ในโรงงานแห่งใหม่เป็นระบบ Automation เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการเพิ่มแรงงานใหม่ วางเป้าหมายปี 2567 แรงงาน 1 คน ผลิตยางเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 35 ตัน

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล จึงเดินหน้าทำ ‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน’ โดยการลงทุนนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้ ทั้งในส่วนของกระบวนการผลิตภายในโรงงานแห่งใหม่และการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับใช้เป็นช่องทางติดต่อสื่อสารและรับซื้อยางจากเกษตรกร เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยางไทยและนำองค์กรก้าวสู่ยุค 4.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

ทั้งนี้ กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นใหม่ของบริษัทฯ ที่จะทยอยแล้วเสร็จในปีนี้ 10 โครงการ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3.7 ล้านตันต่อปี จากปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านตันต่อปี และที่จะลงทุนขยายโรงงานใหม่ในอนาคต ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความทันสมัย เช่น ระบบโรโบติกส์ (หุ่นยนต์), ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นต้น เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตด้วยระบบออโตเมชั่น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถช่วยลดการเพิ่มจำนวนแรงงานใหม่ในอนาคตเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องตามแผนงาน

บริษัทฯ วางเป้าหมายว่าการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบออโตเมชั่นเข้ามาใช้ในโรงงานใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตยางได้มากขึ้น โดยนับจากปี 2563 – 2567 แรงงาน 1 คนสามารถผลิตยางได้เฉลี่ย 16 ตัน ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ย 35 ตัน หรือมีความสามารถผลิตยางต่อแรงงาน 1 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 120% ภายในระยะเวลา 5 ปี

“โรงงานใหม่ของบริษัทฯ  ที่จะทยอยแล้วเสร็จ จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ เนื่องจากเรามองว่าการลงทุนด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน เป็นหัวใจสำคัญที่จะยกระดับองค์กร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลและเพิ่มศักยภาพในการผลิตที่ดียิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเพิ่มแรงงานใหม่เป็นจำนวนมากเพื่อรองรับแผนงานขยายกำลังผลิต” นายวีรสิทธิ์ กล่าว

กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร STA กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ยกระดับอุตสาหกรรมยางในประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัล โดยเป็นผู้ประกอบการยางธรรมชาติรายแรกในไทยที่เปิดมิติใหม่ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันภายใต้ชื่อ ‘ศรีตรังเพื่อนชาวสวน’ (SRI TRANG FRIENDS) เข้ามาใช้ในการรับซื้อยางจากเกษตรกรชาวสวนเพื่อ ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว สร้างความโปร่งใสในระบบ Supply Chain อย่างยั่งยืน และมีกิจกรรมเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงติดตามข้อมูลสารเกี่ยวกับเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมยางผ่านแอปพลิเคชัน

ปัจจุบันแอปพลิเคชันดังกล่าวได้รับความสนใจและมียอดดาวน์โหลดแอปฯ แล้วกว่า  12,000 ราย  ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชันเวอร์ชั่นใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น มีฟีเจอร์เสริม และเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆไปจนถึงการสนับสนุนการสร้างรายได้แก่ชุมชน เพื่อให้เป็น Super App ที่ครอบคลุมการบริการ ข้อมูลข่าวสารและการใช้งานในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับยางธรรมชาติไว้ในแอปฯ เดียว ถือเป็นอีกก้าวในการพัฒนาอุตสาหกรรมยางในประเทศไทย คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 3/2565

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ม.มหิดล ชูความสำเร็จผลงานนวัตกรรมวัคซีนไข้เลือดออกเดงกี ชนิดเข็มเดียว เตรียมผลักดันออกสู่ตลาดโลก

โรคไข้เลือด เป็นหนึ่งในโรคประจำถิ่นในทุกประเทศเขตร้อนของโลกรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี มียุงลายหรือยุงรำคาญเป็นพาหะนำโรคมาสู่คน และในปัจจุบันมีประชากรประม...

Responsive image

ททท. ประกาศผู้ชนะ TAT Travel Tech Startup 2024 ทีม HAUP คว้าชัย ร่วมผลักดัน ท่องเที่ยวไทยกับ 11 ทีม Travel Tech

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผลผู้ชนะโครงการ TAT Travel Tech Startup 2024 กิจกรรมบ่มเพาะและโจทย์ด้านการท่องเที่ยวสุดท้าทาย ร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้แนวคิด WORLD...

Responsive image

ทำความรู้จักกับซิม IoT จาก SoftBank และ 1NCE จ่ายครั้งเดียว ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ปี

รู้จักซิมการ์ด IoT จาก 1NCE เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทั่วโลกใน 173 ประเทศ ด้วยค่าใช้จ่ายครั้งเดียวใช้งานได้นาน 10 ปี เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันคุ้มค่าและจัดการง่าย...