ในวันที่แบรนด์ต่างแข่งกันสะสม Data ให้ BIG เพื่อรอวันได้ออกดอกออกผลจากการประมวลผลและทำ AI, Machine learning, Automation, Personalization กันเจ๋งๆ ซักที ดันมีกฎหมายใหม่ออกมาสั่งห้าม เหมือนสะสมแต้มชานมไข่มุกจนครบจำนวนกำลังจะเดินไปแลกของ....เอ๊า.....ร้านปิดซะงั้น !
จริงๆแล้วไม่ได้แย่ขนาดนั้นค่ะ เรามาดูกันว่าทำไม
ตามที่เราได้เข้าใจพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 กำลังจะมีผลบังคับใช้ 27 พ.ค.นี้แล้ว ( อ่านใจความพรบ. ได้ที่นี่ link ) กำหนดว่าจะต้องมีบทบาทใหม่อีก 2 ตำแหน่ง
เราคิดว่านักการตลาดที่องค์กรมีข้อมูลค่อนข้างเยอะและมีการทำการตลาดแบบใช้ Data เยอะๆ ผู้บริหารสูงสุดของฝ่ายการตลาดอย่าง CMO, Marketing Director หรือ Manager ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล อาจต้องรับตำแหน่งใหม่นี้ไปโดยปริยาย ส่วน Vendor Data Consultant อย่างเรา Analytist ก็จะเข้าข่ายเป็นผู้ประมวลผลค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทของธุรกิจและการตัดสินใจของแต่ละองค์กรด้วยค่ะ
2. รูปแบบการบริหารข้อมูล และบริการใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น
ทั้ง eco system ของข้อมูลจะต้องมีการปรับอีกหลายอย่างเพื่อรองรับสิทธิใหม่ๆที่เจ้าของข้อมูลพึงได้รับ
คีย์คือ ต้องมีหลักฐานของ Consent เก็บไว้
ที่เราชอบเอามาพับๆใส่ไว้ให้ User อ่านจบเร็วๆ หรือกดอ่านหรือไม่อ่านก็ได้นี่คือ ผิดนะคะ ที่ถูกจะต้องคลี่ ต้องแผ่ ยาวๆไปเลย และแยกหัวข้อออกจากหัวข้ออื่นๆ
เรามีตัวอย่างของ SCB ที่ทำไว้ค่อนข้างดี มาให้ดูกันค่ะ
เข้าแอพไปตรงเมนูอื่นๆ ด้านขวาล่างสุด มีเมนู “จัดการข้อมูลส่วนตัว”
มีการแจ้งสิทธิและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ไม่มีการพับเก็บไว้
คำถามที่ว่า การประมวลผลโดยไม่มีข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้อยู่ด้วย สามารถทำได้หรือไม่นั้น ยังไม่แน่ชัด
ในรายละเอียดเหล่านี้ยังต้องอาศัยการตีความโดยนักกฎหมาย และหากจะทำต้องพร้อมรับความเสี่ยงด้วย จนกว่าจะมีแนวทางจาก PDPA Thailand หรือ กฎหมายลูกจะมาบ่งชี้ชัด
ผู้เขียน : Analytist Team
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด